posttoday

"เสริมสร้าง พาวเวอร์"ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลมในเวียดนาม กำลังผลิต 48 เมกะวัตต์

25 กันยายน 2562

พร้อมเดินหน้ารุกลงทุนต่างประเทศเต็มสปีด หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าสิ้นปี 62 ทะลุเป้า 157 เมกะวัตต์

พร้อมเดินหน้ารุกลงทุนต่างประเทศเต็มสปีด หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าสิ้นปี 62 ทะลุเป้า 157 เมกะวัตต์

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP)เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 24 ก.ย.62 บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมพัฒนา (Joint Development Agreement)กับกลุ่มบริษัท Truong Thanh Vietnam Group Joint Stock Company (TTVN) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ขนาดกำลังผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ซึ่งโครงการดังกล่าวจะดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งในเวียดนาม โดยกลุ่มบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้น 80% และกลุ่ม TTVN มีสัดส่วนการถือหุ้น 20%

ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนดังกล่าว จะมีทุนจดทะเบียน 400 พันล้านเวียดนามดอง (เทียบเท่า 528.4 ล้านบาท อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ 20 ก.ย.62 ในอัตรา 0.1321 บาทไทยต่อ 100 เวียดนามดอง) ขณะที่ เรียกชำระทุนเบื้องต้น 14.5 พันล้านเวียดนามดอง (เทียบเท่า 19.2 ล้านบาท) โดยการเรียกชำระทุนครั้งต่อไปจะเป็นไปตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายตามความจำเป็นในอนาคต ทั้งนี้ TTVN ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ

สำหรับเป้าหมายของ SSP คือการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทน ในทุกรูปแบบ ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะโซลาร์ฟาร์มเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นนี่จึงเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งของ SSP เป็นการเปิดอีกมิติแห่งการลงทุน โดยรุกสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนแบบวินด์ฟาร์ม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรูปแบบ จากอีกหลายรูปแบบที่เรากำลังศึกษาถึงโอกาสและความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นผลสำเร็จส่วนหนึ่งของการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการอื่นๆ อีกต่อไปในอนาคต และส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงที่ผ่านมา SSP มีกำลังการผลิตติดตั้งจากโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 140 เมกะวัตต์ หลังจาก COD โครงการ Binh Nguyen Solar ที่เวียดนาม และคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้กำลังการผลิตติดตั้งจะเพิ่มเป็น 157 เมกะวัตต์ โดยเพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่มองโกเลีย มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16.4 เมกะวัตต์ ซึ่งได้ COD ไปแล้วเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

นายวรุตม์กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลงานในครึ่งปีหลังนี้ ว่ามีสัญญาณที่ดีและเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มในมองโกเลียได้เพิ่มขึ้น และโครงการดังกล่าว จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยคาดว่ารายได้เติบโตประมาณ 30-40%และยังคงทุบสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าในการขยายการลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการ ซึ่งในปี 2563 ตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตที่ 196 เมกะวัตต์ จากสิ้นปี 2562 ที่มี 157 เมกะวัตต์