"จี แคปปิตอล"งัดแผนเยียวยาเกษตรกรเสียหายจากน้ำท่วม-ภัยแล้ง

ปล่อยกู้เพิ่มวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และให้ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ขยายเวลาผ่อนชำระ

นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล (GCAP) ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรกลการเกษตร และให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงสินเชื่อประเภทอื่น ๆ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ภัยพิบัติพายุโซนร้อนหลายลูกได้สร้างความเสียหายต่อเกษตรกร และประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งในด้านของที่อยู่อาศัย และผลิตผลการเกษตรที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

"GCAP ได้รับแจ้งถึงความเดือดร้อนในครั้งนี้จากลูกค้าของทางบริษัทฯ ในหลายพื้นที่ จึงได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้า เพื่อแบ่งเบาภาระและเสริมสภาพคล่องแก่ลูกค้าในพื้นที่ที่ประสบภัย ผ่านทางโครงการช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง" นายสเปญ กล่าว 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เสนอแผนทางเลือกให้กับเกษตรกร หรือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งโดยมี 2 แผนดังนี้

แผนที่ 1 คือ ปรับโครงสร้างหนี้ หรือปิดสัญญาเดิม เปิดสัญญาใหม่ เป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกร หรือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง จนอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง และไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่างวดตามปกติได้

โดยสามารถยื่นขอปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ โดยมีระยะเวลาโครงการ เริ่มวันที่ 1 สิงหาคม – 30 ธันวาคม 2562 และสินเชื่อที่เข้าร่วมโครงการ คือ สินเชื่อสบายใจเกษตรกร (สินเชื่อเช่าซื้อรถเกี่ยวนวดข้าว, รถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรกลการเกษตร)

ขณะที่บริษัทฯ มีเกณฑ์การคัดเลือกผู้ผ่านคุณสมบัติ คือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง, ลูกค้าที่มียอดค้างชำระมากกว่า 1 งวด แต่ไม่เกิน 6 งวด, ชำระค่างวดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 งวด สำหรับผ่อนรายเดือน และไม่ต่ำกว่า 3 งวด สำหรับผ่อนรายไตรมาส สำหรับอัตราดอกเบี้ยเท่ากับสัญญาเดิม (อัตราดอกเบี้ยคงที่) และมีระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี (อายุรถ+ระยะเวลาผ่อนชำระ รวมกันต้องไม่เกิน 10 ปี)

สำหรับแผนที่ 2 คือ สินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) เป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกร หรือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง จนอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง และไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่างวด ค่าใช้จ่ายตามปกติได้ สามารถขอกู้เพิ่มเติมจาก GCAP ในรูปแบบวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล แบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยนำหลักทรัพย์ที่มีอยู่ มายื่นสมัครกับทาง GCAP โดยมีระยะเวลาโครงการเริ่มวันที่ 1 สิงหาคม – 30 ธันวาคม 2562

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเกณฑ์การคัดเลือก คือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง โดยมีหลักประกัน คือ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ เครื่องจักร โดยกรรมสิทธิ์ในหลักประกันเป็นการโอนกรรมสิทธิ์เป็นในนาม GCAP วงเงินกู้ยืม 60% ของราคาประเมินหลักประกัน และมีอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก 15% ต่อปี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดนาน 2 ปี