posttoday

ธปท.ไม้แข็งเปิดข้อมูลลับระบบแบงก์ล่ม บีบแบงก์ยกเครื่องใหญ่

02 กันยายน 2562

โดย เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

โดย เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

ปฏิบัติการเชือดนิ่มๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยการเปิดเผยข้อมูลสถิติระบบให้บริการผ่านออนไลน์ช่องทางต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ล่ม ถือว่าทำให้ธนาคารพาณิชย์เสียหน้าอยู่ไม่น้อย

หากดูข้อมูลที่ ธปท. เปิดเผยออกมาเฉพาะไตรมาส 2 ปี 2562 หรือ 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งนั้นที่ครองแชมป์ระบบไอทีแบงก์ล่ม ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่อย่างธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารทหารไทย

ไล่ตามมาติดๆ ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยเครดิต

ธปท.ไม้แข็งเปิดข้อมูลลับระบบแบงก์ล่ม บีบแบงก์ยกเครื่องใหญ่

ในรอบปีที่ผ่านมา พบว่า ระบบบธนาคารพาณิชย์ล่มบ่อยครั้ง ทำให้เกิดผลกระทบกับการบริการให้กับลูกค้าในวงกว้าง และทุกครั้งที่ระบบแบงก์ล่ม ลูกค้าที่ใช้และได้ผลกระทบจากระบบล่มจะเป็นคนแจ้งผ่านโลกออนไลน์

ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่เป็นเจ้าของระบบล่ม มักจะเป็นผู้แจ้งที่หลังตลอด หลังจากที่ปิดข่าวในโลกออนไลน์ไม่ได้ และแก้ไขระบบล่มไม่ตกให้กลับมาสามารถใช้ได้ทันที

ระบบแบงก์ที่ล่มบ่อย ทำให้ ธปท. หนีความรับผิดชอบไม่พ้นและติดบ่วงกรรมไปด้วย ในฐานะกำกับดูธนาคารพาณิชย์โดยตรง ดังนั้นทุกครั้งที่ระบบธนาคารพาณิชย์ล่ม ธปท. ก็จะงานเข้าหนีไม่ได้ ว่าทำไม่ถึงดูแลให้ธนาคารพาณิชย์แก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ได้เสียที เพื่อรองรับปริมาณธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ซึ่งที่ผ่านมา ธปท. ก็ได้พยายามหลายครั้งนับไม่ถ้วน ให้ธนาคารพาณิชย์ เร่งลงทุนระบบไอทีเพิ่มขึ้น เพื่อให้รองรับปริมาณธุรกรรม แต่การขอร้องดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะระบบแบงก์ก็ยังล่มอยู่บ่อย และ ธปท. ก็เป็น
จำเลยสังคมอยู่ตลอดเวลา ว่า ไม่มีอำนาจแต่ทำอะไรแบงก์ พาณิชย์ปรับปรุงแก้ไขไม่ได้

เมื่อมาถึงที่สุด ธปท. จึงไม่ทางเลือกต้องเฉือดนิ่มๆ ธนาคาร พาณิชย์ โดยการเปิดเผยข้อมูลระบบแบงก์ล่มของแต่ละ ธนาคารให้สาธรณะชนได้เห็นกันไปเลย ว่า ใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไร

หรือ จะอธิบายกันง่ายๆ คือ ธปท. เปิดข้อมูลนี้ก็ต้องการให้ ลูกค้าเห็น ว่า ธนาคารพาณิชย์ไหนระบบล่มบ่อยก็ไม่ต้องไปใช้บริหารเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาให้วุ่นวายใจ และไปใช้ธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นที่ระบบไม่ล่ม หรือ ล่มน้อยกว่า ให้สบายใจดีกว่า

การดำเนินการของ ธปท. ยังเป็นการบีบให้ธนาคารพาณิชย์ที่ ถูกแฉข้อมูลลับแสนอ่อนไหวครั้งนี้ ก็นั่งไม่ติดเหมือนกัน ต้อง เร่งแก้ไขและลงทุนระบบไอทีของธนาคาเป็นการใหญ่

เพราะหากไปดูผลกำไรของธนาคารพาณิชย์ที่ผ่านมา ยังพบ ว่ากำไรมหาศาล การจะลงทุนในระบบไอทีอีกพันล้านบาท หรือหลายพันล้านบาท ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

เมื่อไปดูผลประกอบการของธนาคารกรุงไทยล่าสุดที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ครึ่งปี 2562 มีกำไร 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนธนาคารกรุงเทพกำไรครึ่งปีแรก 2562 กำไร 1.8 หมื่นล้านบาท และธนาคารทหารไทยที่กำไรครึ่งปีแรก 2562 อยู่ระดับ 3,469 ล้านบาท

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จากตัวเลขกำไรจะเห็นว่า หากธนาคารพาณิชย์จะลงทุนระบบไอทีอีกร้อยล้านหรือพันล้านบาท เพื่อแก้ไขให้ระบบไม่ล่มบ่อยจนสร้างปัญหาให้กับลูกค้า ก็แค่ขาดทุนกำไรเท่านั้น

ดังนั้นเชื่อได้ว่าปฏิบัติการเชือดนิ่มๆ แต่แสนโหดของ ธปท. ที่เปิดเผยข้อมูลลับระบบของธนาคารพาณิชย์ล่มครั้งนี้ น่าจะเป็นยาแรงที่ได้ผล เพราะ ธปท. จะเปิดเผยข้อมูลระบบแบงก์ล่มให้สาธารณชนเห็นทุกไตรมาส หากแบงก์ยังดื้อยังกลัวขาดทุนกำไร และปล่อยให้ระบบแบงก์ล่มบ่อยๆ อีก ข้อมูลระบบแบงก์ล่มไตรมาสต่อๆ ไปก็จะเป็นตัวฟ้องให้ลูกค้าเห็นและรับรู้เองในที่สุดว่าแบงก์ไหนเป็นอย่างไร และจะไปใช้บริการแบงก์ไหนดีที่สุด