posttoday

"ซิโน-ไทยฯ" อู้ฟู่หุ้นกัลฟ์ 5,540 ล้านบาท

25 สิงหาคม 2562

"สารัชถ์"ถือครองพุ่งแสนล้าน สวนอุตสาหกรรมโรจนะ รวยเบา ๆแค่ 2,687 ล้านบาท หลังหุ้นกัลฟ์ ทำปิดนิวไฮ

"สารัชถ์"หุ้นใหญ่มูลค่าถือครองพุ่งแสนล้าน สวนอุตสาหกรรมโรจนะ รวยเบา ๆแค่ 2,687 ล้านบาท หลังหุ้นกัลฟ์ ทำปิดนิวไฮ

หุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ทำราคาปิดสูงสุดใหม่ หรือนิวไฮที่ 138.50 บาท เมื่อวันที่ 23 ส.ค.62 ขณะที่ในวันดังกล่าวราคาหุ้นปรับขึ้นสูงสุดที่ 139.50 บาท

หากนับจากวันแรกที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (6 ธ.ค.60 ) หุ้นกัลฟ์ ปรับตัวขึ้นกว่า 2 เท่า หรือ 207.78 % จากราคาที่ออกและเสนอขายให้กับประชาชาทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ)ที่ราคา 45 บาท หรือปรับตัวขึ้น 93.50 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 2.95 แสนล้านบาท

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง จำนวน 756 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 35.44 % ทำให้เขามีมูลค่าการถือครองหุ้น GULF ที่ 1.04 แสนล้านบาท (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ 3 พ.ค.62)

สำหรับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ GULF ถือหุ้นอันดับที่ 10 จำนวน 40 ล้านหุ้น สัดส่วน 1.88 % ล่าสุดมีมูลค่าการถือครองหุ้นGULF ที่ 5,540 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวได้รับการจัดสรรหุ้นGULF ตั้งแต่ช่วงไอพีโอ จนถึงขณะนี้ทำให้มีกำไร 3,740 ล้านบาท โดยมีต้นทุนที่ 1,800 ล้านบาท

บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) เป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 12 จำนวน 19.40 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 0.91 % ล่าสุดมีมูลค่าถือครองหุ้น GULF ที่ 2,687 ล้านบาท

ล่าสุด GULF เข้าร่วมประมูลโครงการร่วมลงทุน (PPP) การดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ 2 สายใหม่ (สายบางปะอิน-นครราชสีมา และ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี) ผ่านกิจการร่วมค้ากิจการร่วมค้า บีจีเอสอาร์ หรือ BGSR โดยมีพันธมิตรประกอบด้วยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS) ถือหุ้น 40% GULF ถือหุ้น 40% บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ ถือหุ้น 10% และ บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH )ถือหุ้น 10%

บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ "ถือ" หุ้น GULF ให้ราคาเป้าหมาย 86 บาทต่อหุ้น โดยมีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยจากโอกาสสูงในการได้โครงการ O&M มอเตอร์เวย์มาดำเนินการ อย่างไรก็ตามผลตอบแทนจากโครงการดังกล่าวคาดว่าไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มต่อ GULF อย่างมีนัยสำคัญ

บล.เคทีบีฯ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2562 ของ GULF ที่ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน พร้อมแนวโน้มครึ่งปีหลังของปี 2562 ยังทรงตัวแม้มีโครงการใหม่ทยอยผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (ซีโอดี) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 แต่ถูกหักล้างด้วยการซ่อมบำรุงที่มากขึ้น และคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 4,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปี 2562