posttoday

รมช.คลังโชว์ผลงานประเดิมลดภาษียาเส้นลง15เท่า

09 สิงหาคม 2562

ชาวไร่เฮ รมช.คลัง สั่งรื้อขึ้นภาษียาเส้น ชี้ 20 เท่ามากเกินไป ให้ลดเหลือ 5-6 เท่า พร้อมศึกษาขยายเวลาปรับขึ้นภาษีบุหรี่ 40%

ชาวไร่เฮ รมช.คลัง สั่งรื้อขึ้นภาษียาเส้น ชี้ 20 เท่ามากเกินไป ให้ลดเหลือ 5-6 เท่า พร้อมศึกษาขยายเวลาปรับขึ้นภาษีบุหรี่ 40%

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช. การคลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับกรมสรรพสามิตให้ลดภาษีสรรพสามิตยาเส้น จากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นไปกว่า 20 เท่า อยู่ที่ระดับ 0.1% ต่อกรัม จากเดิมอยู่ที่ 0.005% ต่อกรัม โดยจะให้ปรับลดลงมาเหลือ 5-6 เท่า เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ความตั้งใจจริงอยากจะปรับลดลงไปให้อยู่ในอัตราเดิม แต่กรมสรรพสามิต จะมีปัญหาเรื่องข้อสัญญาด้านสุขอนามัยที่ไทยได้ทำข้อตกลงไว้กับองค์กรอนามัยต่างประเทศ เพื่อให้ลดการบริโภคยาเส้นและบุหรี่ลง

ดังนั้น คลังจึงเห็นว่าการปรับลดภาษียาเส้นให้เหลือ 5-6 เท่า น่าจะเป็นระดับที่เกษตรกรปรับตัวได้ทัน และที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบได้มาร้องเรียนกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ลงไปดูในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาช่วยเหลือ

“การดูแลสุขภาพมีความจำเป็นก็จริง แต่อาชีพเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบก็จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือไม่แพ้กัน เราต้องขึ้นภาษียาเส้นในระดับที่เขาปรับตัวได้ทัน ใบยาสูบมีโทษ ทำลายสุขภาพก็จริง แต่อย่างอื่นก็มีเหมือนกัน เช่น ข้าวมอลล์ ที่นำไปทำเบียร์ก็ทำลายสุขภาพเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูให้เท่าเทียมกันทั้งหมด ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ” นายสันติ กล่าว

นายสันติ กล่าวอีกว่า ในส่วนการพิจารณาเลื่อนการปรับขึ้นภาษีบุหรี่จาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 ออกไป ก็เป็นเรื่องที่จะต้องทบทวน เพราะว่ากระทบกับผู้ประกอบการทั้งในส่วนของไทยและต่างประเทศรวมถึงผู้ปลูกใบยาสูบ ในฐานะที่ดูแลการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ก็ไม่อยากให้มีการปรับขึ้นภาษี 40% ทันทีเหมือนกัน ส่วนจะมีแนวทางปรับขึ้นอย่างไร จะทยอยปรับขึ้นตามข้อเสนอของภาคเอกชน ที่เสนอให้ปรับขึ้น 5% ทุก 2 ปี จนครบ 40% เพื่อให้มีเวลาปรับตัวได้ ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังจะหารือกับกรมสรรพสามิตต่อไปว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่

ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้มีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตยาเส้นจาก 0.005% ต่อกรัม เป็น 0.1% ต่อกรัม มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.2562 ส่งผลให้ ราคาขายปลีกยาเส้น มีการปรับขึ้นทันที โดยยาเส้นขนาดบรรจุ 20-30 กรัม ต่อซอง เพิ่มขึ้นจาก 10 บาทเป็น 13 บาท โดยยาเส้นซองเล็กขนาดบรรจุไม่ถึง 10 กรัม ราคา 5 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท เป็น 7 บาท ซึ่งเดิมกรมฯ เก็บภาษีที่ขนาด 10 กรัม เดิมเสีย 5 สตางค์ เพิ่มเป็น 1 บาท