posttoday

ศุลกากรรับทำผิดWTOกรณีนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ

15 กรกฎาคม 2562

ศุลกากรยอมรับไม่ทำตาม WTO กรณีกรณีนำเข้าบุหรี่ต่างเทศ ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่คดีอาญาเป็นคนละส่วนกัน

ศุลกากรยอมรับไม่ทำตาม WTO กรณีกรณีนำเข้าบุหรี่ต่างเทศ ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่คดีอาญาเป็นคนละส่วนกัน

กรมศุลกากรได้ออกหนังสือชี้แจง กรณีพิพาทบุหรี่นำเข้าที่ฟิลิปปินส์ฟ้องไทยภายใต้กระบวนการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลกตามที่เว็บไซต์ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) เผยแพร่คำตัดสินของคณะผู้พิจารณา (Compliance panel) เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 กรมศุลกากรขอชี้แจงกรณีดังกล่าว ดังนี้

1. มูลเหตุของเรื่องนี้เป็นกรณีที่หน่วยงานของไทย ได้แก่ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เห็นว่า ราคาบุหรี่ที่นำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเชีย ในช่วงปี 2544 – 2550 ที่สำแดงโดยผู้นำเข้ารายหนึ่ง มีราคาต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง ซึ่งในส่วนของกรมศุลกากร ผู้นำเข้าได้ยื่นอุทธรณ์การชำระภาษีต่อกรมศุลกากร และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนคดีอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลไทย

2. จากกรณีดังกล่าว ฟิลิปปินส์จึงได้ยื่นฟ้องไทยต่อ WTO ว่า ประเทศไทยประเมินราคาศุลกากรสำหรับสินค้าบุหรี่ที่นำเข้าโดยบริษัทรายนี้ ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของ WTO โดยมีการยื่นฟ้อง 3 ครั้ง คือ

2.1. ครั้งแรกในปี 2551 โดยมีสาระสำคัญว่า หน่วยงานไทย ได้แก่ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ WTO ซึ่งเรื่องดังกล่าว WTO เห็นด้วยกับฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ไทยได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามความตกลงของ WTO แล้ว

2.2. ครั้งที่ 2 ในปี 2559 และครั้งที่ 3 ในปี 2561 โดยสาระสำคัญมาจากประเด็นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานอัยการสูงสุด ได้พิจารณาเห็นว่า ราคาบุหรี่ที่ผู้นำเข้าสำแดง ทั้งที่นำเข้าจากฟิลิปปินส์และอินโดนีเชีย ไม่ใช่ราคาซื้อขายที่แท้จริง ตามที่กล่าวในข้อ 1. จึงได้ดำเนินคดีส่งฟ้องต่อศาลอาญา ซึ่งศาลได้รับไว้พิจารณาแล้ว ฟิลิปปินส์จึงยื่นฟ้องต่อ WTO โดยเห็นว่าการดำเนินการของหน่วยงานของไทยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ WTO

3. คำตัดสินของ WTO เป็นการพิจารณาว่า ประเทศไทยไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ WTO กำหนดไว้ในการประเมินราคาศุลกากร แต่มิได้ตัดสินว่า ผู้นำเข้าสำแดงราคาต่ำหรือไม่ ซึ่งการตัดสินดังกล่าว ประเทศไทยยังสามารถที่จะอุทธรณ์คำตัดสินของคณะผู้พิจารณา (Compliance panel) ของ WTO ต่อองค์กรอุทธรณ์ (Appellate Body)ได้ ดังนั้น กระบวนการพิจารณาในเรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด

4. ขณะนี้คณะทำงานดำเนินการในกระบวนการระงับข้อพิพาทระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีกรมศุลกากรเป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ได้ยื่นอุทธรณ์ในกรณีฟิลิปปินส์ฟ้องในปี 2559 ไปแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณายื่นอุทธรณ์สำหรับกรณีฟิลิปปินส์ฟ้อง ในปี 2561

5. กระบวนการที่ไทยและฟิลิปปินส์ดำเนินการในขณะนี้ เป็นกระบวนการของ WTO ในการยุติข้อพิพาท ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและฟิลิปปินส์เห็นพ้องกันอยู่แล้ว ทั้งนี้ ขั้นตอนการอุทธรณ์ก็อยู่ในกระบวนการของ WTO เช่นกัน สำหรับประเด็นค่าเสียหายนั้น เป็นประเด็นแยกต่างหากจากคำตัดสินและขึ้นอยู่กับว่าฟิลิปปินส์มีความเสียหายเกิดขึ้นจากการดำเนินการของไทยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ ฟิลิปปินส์ยังมิได้เรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งนี้ หากมีค่าเสียหาย เป็นเรื่องที่ฟิลิปปินส์ต้องพิสูจน์ว่ามีค่าเสียหายเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะเป็นกระบวนการภายหลังจากการพิจารณาอุทธรณ์เสร็จสิ้นแล้ว