posttoday

คนแก่มีบ้านไม่มีอด ธอส.รับจำนองให้เงินรายเดือน

24 พฤษภาคม 2562

ธอส. เดินหน้าโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ วงเงิน 1,000 ล้านบาท ให้รับเงินใช้ยาวถึง 25 ปี

ธอส. เดินหน้าโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ วงเงิน 1,000 ล้านบาท ให้รับเงินใช้ยาวถึง 25 ปี

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารจัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของตนเองและปลอดภาระหนี้ สามารถนำมาจำนองกับธนาคารเพื่อรับเงินเป็นรายเดือน สำหรับการดำรงชีพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กำหนดพื้นที่นำร่องที่อยู่อาศัย (หลักประกัน) ต้องตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ทั้งนี้ ธนาคารกำหนดให้กู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 80 ปี และต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ กู้ร่วมได้เฉพาะกับคู่สมรสตามกฎหมายหรือพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันที่มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันเดียวกัน วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 50% ของราคาประเมินและสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้ อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปีตลอดอายุสัญญากู้

นอกจากนี้ ยังได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ฟรี 1.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2.ค่าประเมินราคาหลักประกัน 3.ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาทต่อราย) และ 4.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)

ขณะที่ ระยะเวลาขอรับเงินได้นานสูงสุด 25 ปี หรือจนถึงผู้กู้อายุ 85 ปี ธนาคารจะจ่ายเงินให้ผู้กู้เป็นรายเดือน อาทิ วงเงินกู้ 2 ล้านบาท หากผู้กู้อายุ 65 ปี ระยะเวลาการกู้ 20 ปี จะได้รับเงินจากธนาคารเดือนละ 8,300 บาท

คนแก่มีบ้านไม่มีอด ธอส.รับจำนองให้เงินรายเดือน

สำหรับกรณี ครบระยะเวลาการกู้ตามสัญญาแล้วสามารถขอชำระหนี้ปิดบัญชี โดยธนาคารจะคำนวณจำนวนเงินเท่ากับวงเงินกู้ที่ธนาคารจ่ายให้แก่ผู้กู้ทั้งหมดรวมกับดอกเบี้ยค้างรับ หรือ หากไม่สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีผู้กู้ยังมีสิทธิอยู่อาศัยต่อในหลักประกันเดิมได้ตลอดชีวิต หรือสามารถแจ้งความประสงค์ขอกู้เพิ่มได้ โดยขอรับวงเงินที่กู้เพิ่มได้นานสูงสุด 14 ปี

กรณีผู้กู้เสียชีวิตให้ถือว่าสัญญาสิ้นสุดลงธนาคารจะให้สิทธิแก่ผู้รับผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในสัญญากู้สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีเพื่อไถ่ถอนจำนองเพื่อรับกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยดังกล่าว แต่หากผู้รับผลประโยชน์ไม่ประสงค์ชำระหนี้ปิดบัญชี ธนาคารจะนำหลักประกันขายทอดตลาดต่อไป โดยผู้รับผลประโยชน์ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนต่างหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่วนต่างๆ แม้ราคาขายทอดตลาดจะต่ำกว่ายอดชำระหนี้

สำหรับกรณีราคาขายทอดตลาดสูงกว่ายอดชำระหนี้ธนาคารจะคืนเงินส่วนต่างให้ผู้รับผลประโยชน์หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่วนต่าง ๆ แล้ว

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้สูงอายุสนใจที่ขอสินเชื่อ Reverse Mortgage จำนวน 4-5 ราย ซึ่งธนาคารพร้อมพิจารณาอนุมัติให้สินเชื่อ หากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้