เงินไหลกลับตลาดเกิดใหม่-จีน

เงินไหลกลับตลาดเกิดใหม่ หลังนักลงทุนคลายวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ศึกการค้าคลี่คลาย

นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานอ้างข้อมูลจากบริษัทวิจัย ควิก-แฟกเซต ว่า นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ผ่านกองทุน อีทีเอฟ โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ยอดเงินไหลเข้าสุทธิอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 แสนล้านบาท) จากความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความหวังว่าสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงแก้ข้อพิพาทการค้าได้

รายงานระบุว่า เงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ 1.01 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.16 แสนล้านบาท) ในเดือน ม.ค. ซึ่งสูงสุด ในรอบ 1 ปี หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ทั้งนี้ เงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ นำโดยตลาดหุ้นจีน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นจีนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น 6.07 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.83 แสนล้านบาท) เมื่อเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 73% จากปีก่อนหน้า และนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ เงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 9.9 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.62 แสนล้านบาท) สูงกว่ายอดเฉลี่ยรายเดือนที่ 2.45 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.14 แสนล้านบาท) ในปี 2561

ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก โดยในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. 2561 เงินไหลออกสุทธิจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.57 แสนล้านบาท) จากความวิตกเรื่องทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟด และวิกฤตค่าเงินในตุรกีและอาร์เจนตินา

"เงินไหลกลับเข้าสู่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างชัดเจน สะท้อนออกมาจากเม็ดเงินในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้" นายทากาฟูมิ โฮริอูชิ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารมิซูโฮ กล่าว

ด้าน นายพอล คิตนีย์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดหุ้นฝ่ายวิจัยเอเชีย-แปซิฟิก จากบริษัท ไดวะ แคปปิตอล มาร์เก็ตส์ แนะนำให้นักลงทุนลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

ทั้งนี้ นิกเกอิระบุว่า ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศเอเชียส่วนใหญ่ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน พุ่งขึ้น 10% หลังร่วงหนัก 25% เมื่อปีก่อนหน้า ด้านดัชนี เอ็มเอสซีไอ ตลาดเกิดใหม่ ปรับตัวขึ้น 6% ขณะที่ค่าเงินกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเช่นกัน