ปรับเกณฑ์ช็อปคืนแวต

โครงการคืนแวตช็อปตรุษจีนฝืด ประชาชนลงทะเบียนแค่ 7,000 คน แก้ลำขยายให้ลงบัตรเดบิต 10 ใบ ให้ธนาคารเร่งประชาสัมพันธ์ลูกค้า

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยคลังจะเริ่มดำเนินมาตรการช็อปช่วยชาติเทศกาลตรุษจีนผ่านบัตรเดบิตในช่วงวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 กระทรวงการคลังได้ขยายเงื่อนไขการลงทะเบียนจากเดิมที่กำหนดให้ลงทะเบียนบัตรเดบิตได้เพียง 1 ใบ ให้เป็นไม่เกิน 10 ใบ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากประชาชนจำนวนมากมีบัตรเดบิตหลายใบ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเปิดให้ลงทะเบียนเข้าโครงการมาตรการช็อปตรุษจีนตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค. 2562 ล่าสุดมีประชาชนที่สนใจมาลงทะเบียน 7,000 คน โดยกระทรวงการคลังคาดว่าหลังจาก ขยายเงื่อนไขให้ลงทะเบียนบัตรได้หลายใบ คาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนใช้บัตรกว่า 1 แสนใบ จากบัตรเดบิตที่มีในระบบทั้งหมด 50 ล้านใบ โดยทางสมาคมธนาคารไทย จะช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อไม่ไม่ให้ลูกค้า เสียสิทธิการได้ภาษีคืน

นอกจากนั้น ในส่วนของการเปิด ให้ผู้ถือบัตรเดบิตของธนาคารที่เข้าร่วมมาตรการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย กรุงไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา ทหารไทย ธนชาต เกียรตินาคิน ทิสโก้ ซีไอเอ็มบี ไทย แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยูโอบี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ไอซีบีซี และธนาคารออมสิน หรือมีระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่เข้าร่วมมาตรการ เช่น คิวอาร์โค้ด ใช้ในการชำระสินค้าเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการขอคืน ภาษีในช่วงที่มาตรการมีผลบังคับใช้ด้วย

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าในเขต กทม. ที่เข้าร่วมมาตรการนี้ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีระบบบันทึกการเก็บเงิน (พีโอเอส) ที่ช่วยเก็บบันทึกการขาย รายละเอียดสินค้า คำนวณยอดขายและพิมพ์ใบกำกับภาษี โดยเชื่อมต่อกับเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) ซึ่งจะต้องลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลางและที่คลังจังหวัด

สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่จะได้คืนจากการซื้อสินค้ายังเหมือนเดิมคือ 5% หรือไม่เกิน 1,000 บาท/คน เป็นวงเงินซื้อสินค้าไม่เกิน 2.14 หมื่นบาท/คน ซึ่งจะได้รับเงินคืนในเดือน พ.ย. 2562 ผ่านบัตรเดบิตที่ผูกกับบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกติดไว้กับเลขหมายประชาชนเท่านั้น

สำหรับร้านค้าที่มาลงทะเบียนเข้าโครงการมาตรการช็อปตรุษจีนมีจำนวน 1.5 หมื่นร้านค้า สินค้าที่ซื้อแล้วจะไม่ได้คืนภาษีแวตมีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ สุรา ยาสูบ น้ำมันรถยนต์ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์

นายลวรณ กล่าวว่า โครงการมาตรการช็อปตรุษจีนไม่ได้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นมาตรการส่งเสริมให้เกิดสังคมไร้เงินสด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรืออี-เพย์เมนต์ โดยรัฐบาลได้เตรียม งบประมาณไว้คืนภาษีในโครงการนี้ประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท

ภาพประกอบข่าว