ชงครม.เคาะรวม2แบงก์

คลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาควบรวมธนาคารทหารไทยกับธนาคารธนชาต ยันรัฐไม่เสียเปรียบ

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ทาง สคร. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้หารือเรื่องการควบรวมกิจการธนาคารทหารไทยกับธนาคารธนชาตมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด ตามแผนจะให้ รมว.คลัง เห็นชอบ และให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติภายในเดือนนี้ ซึ่งการดำเนินการควบรวมจะต้องเสร็จภายในรัฐบาลนี้แน่นอน

"เนื่องจากแม้ธนาคารทหารไทยไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ แต่เป็นหลักทรัพย์ของรัฐ จึงต้องให้ ครม.เห็นชอบ หลังจากนั้นก็สามารถดำเนินการควบรวมได้เลย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือว่า การควบรวมทั้งสองธนาคาร ทางกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ในธนาคารทหารไทยประมาณ 25% จะต้องไม่เสียเปรียบ และคลังยังถือหุ้นในธนาคารใหม่ด้วย ส่วนจะเป็นสัดส่วนเท่าไรขึ้นอยู่กับรายละเอียดการควบรวม รวมถึงชื่อของธนาคารหลังจากการควบรวมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้ชื่อของธนาคารใด" ผู้อำนวยการ สคร. กล่าว

นายประภาศ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายให้ธนาคารควบรวมกันเพื่อที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ลดต้นทุนการบริหารงาน ซึ่งจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเพื่อให้บริการแบบดิจิทัลที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ธนาคารขนาดเล็กไม่สามารถลงทุนไหวและทำให้แข่งขันไม่ได้ในอนาคต ดังนั้นการควบรวมของธนาคารพาณิชย์จึงเป็นเรื่องดีของทั้งธนาคาร และระบบการเงินของประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย

ด้าน รมว.คลัง ให้ความเห็นเรื่องการควบรวมธนาคารทหารไทยกับธนาคาร ธนชาต ว่าเป็นเรื่องที่ธนาคารต้องหารือกันเอง ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนการควบรวมอยู่แล้ว จึงมีการออกมาตรการเว้นภาษีจากการควบรวมกิจการให้ ซึ่งสิทธิประโยชน์จะหมดอายุในสิ้นปีนี้

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า หากทั้งสองธนาคารรวมกิจการจริงน่าจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจธนาคาร ส่งเสริมกันในฐานลูกค้าที่ทั้งสองธนาคารมีจุดแข็งการทำธุรกิจที่ต่างกัน