posttoday

เงินกู้ เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เผือกร้อนทั้งวงการ

11 มกราคม 2562

สถานการณ์ผิดนัดชำระหนี้ของ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จนกลายเป็นหนี้ที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ดูท่าไม่จบลงง่ายๆ

โดย...ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

สถานการณ์ผิดนัดชำระหนี้ของ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จนกลายเป็นหนี้ที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ดูท่าไม่จบลงง่ายๆ เกิดความคาราคาซังทั้งฝั่งเจ้าหนี้และลูกหนี้ หลังจากที่แผนฟื้นฟูกิจการของ เอิร์ธ ไม่ได้รับอนุมัติจากศาลล้มละลายกลาง

ความเคลื่อนไหวทางฝั่งเจ้าหนี้ ซึ่งมีจำนวนหลายราย ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยหารือกันว่าจะมีการรวมตัวจัดทำแผนใหม่หรือไม่ รวมทั้งกลุ่มเจ้าหนี้ผู้ถือตั๋วบี/อี รวมถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยพยายามกดดันธนาคารกรุงไทย ฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหา ปล่อยเงินกู้เสริมสภาพคล่องให้ "เอิร์ธ" เพื่อดำเนินธุรกิจต่อได้

ปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เมื่อศาลฟื้นฟูไม่รับแผนก็เท่ากับว่าสิ้นสุด เจ้าหนี้แต่ละรายต้องไปคุยกับลูกค้าเพื่อเจรจาหา ข้อสรุป ซึ่งกระบวนการใช้สิทธิตามกฎหมายมีขั้นตอนตั้งแต่ส่งจดหมายไปทวงหนี้ หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็มีการ พูดคุยเจรจา หากได้ข้อตกลงร่วมกันที่ดีทั้งสองฝ่ายก็จบ แต่หากไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ก็เข้ากระบวนการ ฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งธนาคารกสิกรไทยบริหารจัดการหนี้ในลักษณะเดียวกัน

"ขณะนี้ไม่มีแผนแล้ว ก็ตัวใคร ตัวมันแล้วตอนนี้ ส่วนจะกลับมาคุยกันอีกครั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าจะมายังไง ครั้งที่แล้วคนทำแผนมา ศาลไม่รับ ก็ล้ม ภาษาเราก็แพแตก ก็ถอยมาตั้งหลักว่าจะเอายังไงกันดี" ปรีดี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทยพร้อมเปิดรับโอกาสความเป็นไปได้ทุกทาง อาจจะมีการพูดคุยกับเจ้าหนี้รายอื่นเพื่อทำแผนใหม่ก็เป็นไปได้ ซึ่งหากมีกรณีที่เจ้าหนี้สามารถกลับมารวมตัวเพื่อแก้ปัญหาด้วยกัน และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ธนาคารก็พร้อมเข้าร่วม แต่ถ้าไม่มีข้อเสนอในแนวทางดังกล่าว ก็ต้องต่างคนต่างทำหน้าที่ตามกระบวนการ

ส่วนความเห็นเจ้าหนี้บางรายที่ ไม่สอดคล้องกันนั้น เจ้าหนี้แต่ละคนมีมุมหรือลักษณะการให้วงเงินสินเชื่อแตกต่างกัน การมีมุมมองไม่เหมือนกันจึงเป็นเรื่องปกติ เพราะแต่ละฝ่ายก็ต้องดูแลความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้ ปริญญา พัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเดินหน้า แผนฟื้นฟู บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ อย่างต่อเนื่อง โดยแผนใหม่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เน้นการทำงานร่วมกันเป็นหลักเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ส่วนจะเสร็จเมื่อใดนั้นไม่สามารถระบุระยะเวลาได้แน่ชัด โดยจุดประสงค์หลักของธนาคารกรุงไทยยังคงต้องการให้ลูกหนี้สามารถเดินหน้ากิจการต่อไปได้

ขณะที่ฝั่งลูกหนี้เองก็ได้มีการเข้ามาพูดคุยกับทางธนาคารบ้างแล้ว โดยฝั่งลูกหนี้ยังมุ่งมั่นต้องการเดินหน้าธุรกิจและต้องการคืนเงินให้กับทาง เจ้าหนี้ ทว่าหลังจากแผนฟื้นฟูเดิมที่เสนอไปนั้นไม่ได้รับการอนุมัติ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่าจะต้องเปลี่ยนผู้บริหารแผนฯ รายใหม่ได้ แต่ประเด็นดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหนี้รายอื่นประกอบด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อมูลของแผนเดิมนั้น มีลูกหนี้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ 2,433 ราย คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 1.45 แสนล้านบาทโดยเจ้าหนี้รายใหญ่ของเอิร์ธ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย 1.2 หมื่นล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย 3,800 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1,300 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) 350 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนในการปล่อยสินเชื่อแก่ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ซึ่งกล่าวโทษร้ายแรงแก่ "กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ" อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จน เจ้าตัวตั้งโต๊ะขอความเป็นธรรม และได้ร้องขอความเป็นธรรมจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น

ธปท.กระทุ้งกรุงไทยส่งข้อมูล

จันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในสถาบันการเงิน เป็นเรื่องที่ ธปท.ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงได้กำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินไว้ในระดับที่สูง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งก็เป็นแนวที่ธนาคารกลางและผู้กำกับดูแลทั่วโลกใช้ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน

สำหรับกรณีข่าวเกี่ยวกับอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย เป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของ ผู้ทำหน้าที่บริหารสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตผู้บริหารธนาคาร กรุงไทยได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และ ธปท. เห็นว่ายังมีข้อมูลที่ต้องให้ธนาคารกรุงไทยชี้แจงเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรอข้อมูลดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผยงปฏิเสธที่จะให้ความเห็น