แบงก์ลั่นไม่ขึ้นดอกเบี้ย

กสิกรไทยลั่น ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย ห่วงเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบ ลุ้นผลประชุม กนง.วันนี้

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ หาก กนง.ขึ้นดอกเบี้ยก็จะไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจมากนักและคงจะขึ้นไม่มาก แต่เห็นว่าธนาคารพาณิชย์ยังไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นตาม โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้

"ดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไม่ขึ้นก็ตามใจ เรายังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ตอนนี้ยังพอไหวและไม่เป็นผู้นำในการขึ้นดอกเบี้ยให้คนอื่นนำบ้าง ส่วนถ้ามีคนนำก็ดูก่อนว่านำไปทางไหน ถ้านำลงเหวก็ไม่ไปด้วย ที่คงยังไม่ขึ้นเพราะเป็นห่วงลูกค้าสินเชื่อโดยเฉพาะรายเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น เดือดร้อนแน่นอน" นายบัณฑูร กล่าว

ทั้งนี้ ระบบธนาคารไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ไม่ต้องเร่งระดมเงินฝาก และไม่ได้ปล่อยสินเชื่อมากมาย เรื่องสภาพคล่องไม่ใช่ปัญหาของเศรษฐกิจ ปัญหาเศรษฐกิจสำคัญของไทยจริงๆ คือ ค้าขายกับโลก อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจปีหน้าการเติบโตคาดว่าทรงตัว จากสัญญาณของสงครามการค้าในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เห็นความรุนแรงของการทะเลาะมากขึ้นระหว่างยักษ์ใหญ่ 2 ประเทศ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า คาดเดายากว่า กนง.จะตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยอย่างไร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจอาจจะไม่เอื้อให้ขึ้นดอกเบี้ย แต่ขณะนี้เงินเฟ้อเข้ากรอบเป้าหมายแล้ว หากไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้อาจจะต้องลากยาว เพราะในปีหน้ามีแนวโน้มราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงทำให้เงินเฟ้อต่ำลง โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยจะมีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง

ด้าน นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เชื่อว่า ที่ประชุมจะมีมติปรับขึ้น 0.25% เป็น 1.75% เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และปรับขึ้นเป็น 2% ช่วงไตรมาสแรกปี 2562 จากนั้นจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปี เหตุผลในการขึ้นดอกเบี้ย เพราะ ธปท.ต้องการสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อให้มีกระสุนรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับผล กระทบมากที่สุดหากมีการขึ้นดอกเบี้ย โดยเอสเอ็มอีสัดส่วน 10% จากทั้งหมด 3 ล้านราย หรือประมาณ 2 แสนราย มีความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ยากขึ้น หรืออาจเรียกหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเพราะต้นทุนสูงขึ้น