posttoday

กลต.เปิดผลวิจัยแฉกองทุนรวมเล่นหุ้นใหญ่กำไรน้อย ฟันค่าธรรมเนียมอู้ฟู่บริการไม่มีคุณภาพ

29 พฤศจิกายน 2561

ก.ล.ต.แฉ กองทุนรวมของไทยเน้นลงทุนหุ้นใหญ่แต่ได้ผลตอบแทนต่ำ แถมเก็บค่าธรรมเนียมสูง แนะผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลก่อนซื้อ

ก.ล.ต.แฉ กองทุนรวมของไทยเน้นลงทุนหุ้นใหญ่แต่ได้ผลตอบแทนต่ำ แถมเก็บค่าธรรมเนียมสูง แนะผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลก่อนซื้อ

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยผลงานวิจัยเรื่อง "พฤติกรรมการลงทุนและลักษณะผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นในประเทศไทย" โดยพบว่า กองทุนรวมหุ้นในไทยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ ราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชีที่สูง และหุ้นที่มี Momentum สูง (ผลตอบแทนในอนาคตในทิศทางเดียวกับผลตอบแทนในอดีต) แต่ผลการดำเนินงานของกองทุนไม่ได้สูงเหมือนผลตอบแทนของหุ้นที่กองทุนเข้าซื้อ สะท้อนว่ากองทุนอาจเป็นผู้เข้าซื้อหรือขายจนเป็นการไล่ราคาหุ้น แต่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ เมื่อนำความเสี่ยงเข้าไปปรับกับผลตอบแทนแล้ว กองทุนรวมหุ้นมีค่าธรรมเนียมบริหารจัดการสูง แต่มีแนวโน้มที่จะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด และผลการดำเนินงานที่ได้อาจไม่คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียม อีกทั้งไม่มีลักษณะเชิงรุกในการบริหารจัดการ (Active) และได้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับตลาดโดยรวม จึงมีข้อสังเกตว่าผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับประโยชน์มากกว่าหากลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐาน (Passive)

"ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) เก็บค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขายที่ยังไม่ค่อยเป็นธรรม และการบริการต่อลูกค้ายังไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะกองทุนรวมที่คิดอัตราค่าธรรมเนียมในระดับสูง แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับทำได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับกองทุนอื่น บางรายไม่สามารถให้บริการข้อมูลและให้คำแนะนำได้ทั่วถึง ก.ล.ต.อยากเห็นการเก็บค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจ" นายรพี กล่าว

แหล่งข่าวจาก ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก่อนซื้อกองทุนรวมประชาชนควรจะศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ซึ่งอาจจะดูจากเรตติ้งของมอร์นิ่งสตาร์ เทียบผลการดำเนินการจากกองทุนประเภทเดียวกันประกอบการตัดสินใจว่าจะซื้อกองทุนไหนดี ปัจจุบันอุตสาหกรรมกองทุนรวม ณ วันที่ 31 ต.ค. มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4.9 ล้านล้านบาท เป็นกองทุนหุ้น 1.5 ล้านล้านบาท

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า การที่กองทุนรวมเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ เพราะบริษัทขนาดกลางและเล็กมีข้อมูลจำกัดไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนยังขาดความเข้าใจการลงทุนในกองทุนแต่ละประเภท แม้จะอธิบายแล้ว เช่น กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลาง จะมีระยะเวลาและอัตราความผันผวนต่อสถานการณ์ที่จะแตกต่างจากกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ แต่นักลงทุนไม่เข้าใจ เมื่อตลาดมีการปรับตัวลงก็ขายออก เหมือนการเล่นหุ้นทั่วไป ซึ่งธรรมชาติของการลงทุนในกองทุนรวมต้องถือลงทุนระยะยาว ทำให้กองทุนต้องลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก เพื่อรักษาสภาพคล่องและความปลอดภัยในการลงทุน