posttoday

ชงตั้งกองทุนหักภาษี ให้สิทธิลดหย่อน1แสน ทดแทนยกเลิกแอลทีเอฟ

13 พฤศจิกายน 2561

สภาธุรกิจตลาดทุนเสนอ "สมคิด" ตั้งกองทุนใหม่แทนแอลทีเอฟ ให้เครดิตภาษี 20% ของเงินลงทุนแต่ไม่เกิน 1 แสน

สภาธุรกิจตลาดทุนเสนอ "สมคิด" ตั้งกองทุนใหม่แทนแอลทีเอฟ ให้เครดิตภาษี 20% ของเงินลงทุนแต่ไม่เกิน 1 แสน

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ได้เสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเมื่อวานนี้ ให้จัดตั้งกองทุนประเภทใหม่ขึ้นมาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ซึ่งจะหมดอายุการให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้ในปี 2562 เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนออมเงินระยะยาว

ทั้งนี้ ได้เสนอเงื่อนไขว่าให้หัก ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 20% ของเงินลงทุน แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท และไม่เกินภาระภาษีที่ต้องจ่าย สามารถนำไปหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องจ่ายได้เลย ต้องลงทุนขั้นต่ำเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งระยะเวลาลงทุนยาวกว่าแอลทีเอฟในปัจจุบันที่กำหนดไว้ 7 ปีปฏิทิน

"ยกตัวอย่างต้องจ่ายภาษี 5 หมื่นบาท แล้วมีการลงทุน 1 แสนบาท จะได้เครดิตภาษี 20% คือ 2 หมื่นบาท ก็นำ 2 หมื่นบาทไปหักออกจาก 5 หมื่นบาท จะเหลือภาษีที่ต้องจ่าย 3 หมื่นบาท แต่ต้องไม่เกินภาระภาษีที่ต้องจ่าย เช่น ภาษีที่ต้องจ่ายจริง 5 หมื่นบาท ก็เครดิตภาษีได้ 5 หมื่นบาท ไม่สามารถเครดิตได้ 1 แสนบาท จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกคน ไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือรายได้น้อย ก็กำหนดสูงสุดไว้ที่ 1 แสนบาท ลดความเหลื่อมล้ำ" นายไพบูลย์ กล่าว

นอกจากนี้ เม็ดเงินที่ได้จากการซื้อกองทุนแบบใหม่นี้ 50% ของเงินลงทุนจะนำไปลงทุนในกองทุนโครงสร้าง พื้นฐานที่ออกโดยภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของประเทศ และลงทุนในหุ้นที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เหลืออีก 50% ให้สิทธิบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เลือกลงทุนอย่างอิสระ

นายไพบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ทางรองนายกฯ ได้รับทราบข้อเสนอแล้ว แต่ยังไม่ได้ตอบรับ การที่เสนอแบบเครดิตภาษี เพราะการลงทุนในแอลทีเอฟถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือคนมีเงิน เช่น คนที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 35% ถ้าลงทุน 5 แสนบาท จะประหยัดได้ถึง 35% ของ 5 แสนบาท คนที่เสียภาษีอยู่ในอัตราต่ำก็จะได้น้อย แต่แนวคิดของกองทุนประเภทใหม่ทุกคนประหยัดเท่ากันหมดคือสูงสุด 1 แสนบาท" นายไพบูลย์ กล่าว