posttoday

สางหนี้คืนเงินคลัง4หมื่นล.

10 พฤศจิกายน 2561

IAM ตั้งเป้าส่งกำไรคืนคลังหมื่นล้าน หลังคาดตามเรียกหนี้คืนได้กว่า 4 หมื่นล้าน เล็งจ้างพันธมิตรทวงหนี้

IAM ตั้งเป้าส่งกำไรคืนคลังหมื่นล้าน หลังคาดตามเรียกหนี้คืนได้กว่า 4 หมื่นล้าน เล็งจ้างพันธมิตรทวงหนี้

นายธงรบ ด่านอำไพ ผู้จัดการบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ IAM เปิดเผยว่า IAM ตั้งเป้าหมายติดตามปรับโครงสร้าง และการนำทรัพย์ออกมาขาย คาดว่าจะบริหารหนี้ได้เงินมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากหนี้ที่ได้รับโอนมาจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือไอแบงก์ มากกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท โดยได้ใช้วิธีการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยครบกำหนดคืนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 5 ปี เริ่มในปี 2563-2567 เฉลี่ยส่งคืนปีละ 5,000 ล้านบาท

"หนี้ที่รับโอนมา 4.8 หมื่นล้านบาท คาดว่าติดตามคืนมาได้ 4-4.2 หมื่นล้านบาท ในส่วนนี้ต้องเอาไปจ่ายค่าตั๋ว รวมอัตรากำไรหรือดอกเบี้ยในช่วง 7 ปี จะเป็นเงินราว 2.8 หมื่นล้านบาท เมื่อหักค่าบริหารจัดการของบริษัทต่างๆ ในช่วง 7 ปีแล้ว คาดว่าจะมีกำไรส่งคืนกระทรวงการคลัง 7,000 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทได้" นายธงรบ กล่าว

ทั้งนี้ จากการประเมินหลักประกันและความตั้งใจของลูกหนี้ ซึ่งในหนี้ 4.8 หมื่นล้านบาท แยกเป็นลูกหนี้รายใหญ่ 174 ราย ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 20 ล้านบาท คิดเป็นมูลหนี้ 4.2 หมื่นล้านบาท และลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 20 ล้านบาท มีจำนวน 2.76 หมื่นราย คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 6,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการถึงล่าสุดกว่า 2 ปี มีลูกหนี้รายเล็กเข้ามาติดต่อขอปรับโครงสร้างหนี้ และเข้ามาปิดบัญชีแล้ว 3,000 ราย เป็นเงินกว่า 500 ล้านบาท และมีลูกหนี้รายใหญ่เข้ามาติดต่อปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 1 ราย และได้เตรียมนำทรัพย์สินรอการขาย หรือเอ็นพีเอ ออกจำหน่าย 116 รายการ คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินกว่า 400 ล้านบาท ภายใต้โครงการไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ตั้งแต่วันที่ 9-11 พ.ย. 2561 ที่ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

ทั้งนี้ IAM คาดว่าปีนี้จะเรียกเก็บหนี้ได้ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ในปีหน้า โดยมี เป้าหมายนำเงินที่เรียกหนี้ได้ ไปจ่ายคืนตั๋วสัญญาให้ไอแบงก์ เฉลี่ยปีละ 5,000 ล้านบาท ไปจนถึงปี 2567 โดยจะเตรียมว่าจ้างบริษัทมาช่วยติดตามทวงหนี้เพิ่มในปีหน้า

นายธงรบ กล่าวว่า ในปีหน้า IAM ต้องทำงานอีกมากทั้งเรื่องระบบและเร่งเรียกหนี้คืนตั้งเป้าว่าอยากให้ได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เท่าที่ดูลูกหนี้ทุกรายน่าตามคืนหนี้ได้หมดไม่มีรายไหนเป็นคลีนโลน แบบที่กู้มาโดยไม่มีหลักประกัน ส่วนรายที่ปิดกิจการไปแล้ว น่ามาจากภาวะเศรษฐกิจ ในที่บางรายมีหลักประกันเกินมูลหนี้เสีย ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการเพื่อบริหารจัดการแปลงสินทรัพย์มาเป็นเงิน เพื่อชำระหนี้ให้กับคลังต่อไป