posttoday

สินค้าอีคอมเมิร์ซทะลัก

27 ตุลาคม 2561

กรมศุลกากรแจงยอดนำเข้าสินค้าผ่านออนไลน์ปีงบประมาณ 2561 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด เร่งเพิ่มระบบตรวจสอบการนำเข้าให้เสียภาษีครบถ้วน

กรมศุลกากรแจงยอดนำเข้าสินค้าผ่านออนไลน์ปีงบประมาณ 2561 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด เร่งเพิ่มระบบตรวจสอบการนำเข้าให้เสียภาษีครบถ้วน

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) จากต่างประเทศเข้าไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิรอบปีงบ 2561 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมีสินค้านำเข้ามา 11.98 ล้านหีบห่อ เพิ่มขึ้น 54.54% คิดเป็นมูลค่านำเข้า 1.43 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.71% ทำให้จัดเก็บภาษีสินค้าอี-คอมเมิร์ซยังได้ 1,064 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.86% จากปีก่อนที่เก็บได้ 800 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สินค้าอี-คอมเมิร์ซที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้กรมศุลฯ มีปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะสินค้าที่สำแดงราคานำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท/ชิ้น เพื่อไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม พบว่ามีการแจ้งเพิ่มถึง 1 เท่าตัว มีการนำเข้าถึง 9.3 ล้านชิ้น มูลค่า 3,500 ล้านบาท

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา กรมศุลฯ กำลังศึกษาการนำเครื่องเอกซเรย์ที่ติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)  เข้ามาใช้ตรวจสอบสินค้าอี-คอมเมิร์ซโดยตรง ซึ่งขณะนี้มีจีนและเกาหลีเริ่มใช้แล้ว แต่ต้องรอดูเทคโนโลยีให้เสถียร และราคามีความเหมาะสมก่อน โดยปีหน้าคาดว่าจะมีการติดตั้งได้ที่แรกในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิจะต้องประสานกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย

"การนำเข้าสินค้าอี-คอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่กรมศุลฯ อื่นทั่วโลกกำลังเผชิญ อย่างไทยก็สินค้านำเข้าเดือนหนึ่งนับล้านชิ้น ซึ่งขณะนี้กรมศุลฯ ได้พยายามเพิ่มความเข้มงวด โดยนอกจากการใช้เทคโนโลยีแล้ว ยังใช้วิธีบริหารความเสี่ยงโดยรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เช่น หากเป็นสินค้าที่ค่าส่งแพงกว่าตัวของก็จะมีการสุ่มตรวจ รวมถึงจะประสานกับเจ้าของเว็บไซต์ต่างประเทศเพื่ออัพเดทราคาสำแดงให้ตรงกับราคาซื้อขายจริง" นายชัยยุทธ กล่าว

สำหรับปีงบประมาณ 2562 กรมศุลกากรมีเป้าหมายเก็บภาษีให้ได้ 1.1 แสนล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีการเพิ่มประสิทธิภาพ และปิดช่องทางรั่วไหลของการเก็บภาษี