posttoday

กองทุนหุ้นพุ่ง3แสนล้านโต24%

26 ตุลาคม 2561

พบในรอบเกือบ 10 เดือน สถาบันในประเทศโชว์ซื้อสุทธิ 1.49 แสนล้าน ดันกองทุนหุ้นไทยไม่รวม RMF/LTF โตแรง เงินไหลเข้าบิ๊กแคป

พบในรอบเกือบ 10 เดือน สถาบันในประเทศโชว์ซื้อสุทธิ 1.49 แสนล้าน ดันกองทุนหุ้นไทยไม่รวม RMF/LTF โตแรง เงินไหลเข้าบิ๊กแคป

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนตามตลาดโลกในรอบเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศ หรือกองทุนรวม ยังมีสถานะซื้อสุทธิ สวนทางต่างชาติ โดยจากรายงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 ต.ค. 2561 สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1.49 แสนล้านบาท สวนทางต่างชาติที่ขายสุทธิ 2.6 แสนล้านบาท

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) รายงานว่าในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) มีเงินไหลเข้า สุทธิทั้งสิ้น 6.8 หมื่นล้านบาท และไหลออกจากกองทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (มิดแอนด์สมอลแคป) 2,421 ล้านบาท รวมมูลค่ากองทุนหุ้นไทย ณ สิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.05 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.53% จากสิ้นปี ไม่รวมกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทให้เป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ระดับ 1,780-1,800 จุด และปีหน้าคาดว่าปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,900 จุด แนะนำให้ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ นอกจากนี้แนะนำให้ทยอยสะสมกองทุน RMF และ LTF เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว

นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จะทำให้อัตราดอกเบี้ยโลกปรับเพิ่มขึ้น และไทยก็น่าจะมีการปรับขึ้นในทิศทางเดียวกัน จะทำให้การลงทุนในหุ้นอาจไม่ได้ผลตอบแทนสูงเหมือนปีที่ผ่านมา นักลงทุนจึงต้อง ใช้ความระมัดระวัง

สำหรับกลุ่มที่คิดว่าจะสามารถ ทำกำไรที่ดีได้ในปี 2562 ประกอบด้วย ส่งออก ที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการของไทยยังแข่งขันได้ ภาคการท่องเที่ยวที่ไทยได้รับความนิยมจากทั่วโลก และมีการขยายสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 เป็นการสะท้อนถึงการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว

ขณะที่ภาคการก่อสร้าง จะได้ประโยชน์จากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงธุรกิจธนาคารจะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่เติบโต ทำให้สามารถประกอบธุรกิจได้ดีมีการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทจดทะเบียนไทยยังมีความแข็งแกร่งทางการเงิน เพราะไม่ได้มีการใช้เงินกู้หรือก่อหนี้เกินตัว