posttoday

LTF ถล่มขายปีหน้า1.4แสนล.

25 ตุลาคม 2561

บล.กสิกรไทย ชี้หากไม่มีมาตรการรองรับแอลทีเอฟ คาดปี 2562 เงินไหลออก 1.4 แสนล้าน

บล.กสิกรไทย ชี้หากไม่มีมาตรการรองรับแอลทีเอฟ คาดปี 2562 เงินไหลออก 1.4 แสนล้าน

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า เดือน พ.ย.นี้ คาดว่าจะมีมาตรการรองรับหลังสิทธิประโยชน์ทางภาษีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ครบอายุในปี 2562 โดยน่าจะมีกองทุนใหม่เข้ามาทดแทน แต่มีการยืดอายุการถือครองนานขึ้น หรือทยอยลดวงเงินหักลดหย่อนภาษีแบบขั้นบันได

ทั้งนี้ หากเลิกไปเลยทันที ตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบหนัก โดยปี 2562 มีเม็ดเงินครบกำหนดขายหน่วยลงทุนได้ทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็น LTF ที่ซื้อช่วงปี 2558-2559 มูลค่า 1.2-1.3 แสนล้านบาท และที่ซื้อช่วงปี 2560-2561 อีก 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาผู้ลงทุนจะขายหน่วยลงทุนเมื่อครบกำหนดเฉลี่ย 2.5-3 หมื่นล้านบาท/ปี ขณะที่นักลงทุนบางส่วนจะถือลงทุนต่อ

สำหรับปีนี้คาดว่าเงินไหลเข้า LTF ประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท โดยในรอบ 7 เดือนแรกซื้อเข้ามาแล้ว 2.6 หมื่นล้านบาท ปกติทุกปีจะซื้อช่วงเดือน พ.ย.- ธ.ค.ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

นายประกิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกตื่นตระหนก (แพนิก) กับปัจจัยต่างประเทศที่มีอยู่มาก อีกทั้งกองทุน ต่างประเทศรวมถึงอีทีเอฟปรับพอร์ตและพักเงินในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยไว้ก่อน เช่น ตราสารหนี้ แต่เชื่อว่าเดือน พ.ย. สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันหุ้นไทยปรับลงในทิศทางเดียวกับดัชนีเอ็มเอสซีไอ ตลาดหุ้นโลกและตลาดเกิดใหม่ที่ปรับตัวลง 7% ปัจจุบันนักลงทุนต่างประเทศระยะยาวถือครองหุ้นไทย 30.7% หรือประมาณ 5 ล้านล้านบาท ถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ และหากมีแรงเทขายอีก 1.6 หมื่นล้านบาท จะทำให้สัดส่วนการถือครองลดลงที่ 30.6% ต่ำสุดในรอบ 14 ปี แต่เชื่อว่าแรงขายจะน้อยลงแล้ว

"พ.ย.นี้ ปัจจัยนอกหลายเรื่องดีขึ้น เช่น ความกังวลเงินเฟ้อลดลง เพราะราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลง สงครามการค้าจะมีการเจรจานอกรอบ และเบร็กซิตยุโรปเริ่มคลี่คลาย" นายประกิต กล่าว