posttoday

ชงครม.10ต.ค.นี้รีดภาษีบุหรี่เพิ่มซองละ2บาท

08 ตุลาคม 2561

ปิดหีบภาษีบุหรี่วูบ ครม.คิดหนักผ่าน กม.เก็บภาษีบุหรี่อีกซองละ 2 บาทเข้ากองทุนรักษาฟรีสัปดาห์นี้

ปิดหีบภาษีบุหรี่วูบ ครม.คิดหนักผ่าน กม.เก็บภาษีบุหรี่อีกซองละ 2 บาทเข้ากองทุนรักษาฟรีสัปดาห์นี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเก็บภาษีกรมสรรพสามิตเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2561 เก็บได้ 6.32 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 7,743 ล้านบาท หรือ 10.9% เนื่องจาก ภาษีน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมาย 1,342 ล้านบาท หรือ 4.5% ภาษีเบียร์ต่ำกว่าเป้าหมาย 5,261 ล้านบาท หรือ 32.7%

นอกจากนี้ ภาษีสุราต่ำกว่าเป้าหมาย 5,261 ล้านบาท หรือ 23.3% และภาษียาสูบเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,435 ล้านบาท หรือ 30.7% ซึ่งเป็นการเก็บภาษีบุหรี่ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 30% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากการเก็บภาษีบุหรี่เข้าสู่ภาวะปกติ จากที่ก่อนหน้านี้มีการต่ำกว่าเป้าหมายในเดือนต้นๆ ของปีงบประมาณไว้ต่ำ เพื่อให้ดูได้เก็บสูงกว่าเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีบุหรี่ทั้งปีงบประมาณ 2561 สูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจากต้นปีงบประมาณกรมสรรพสามิตได้ออกระเบียบให้ผู้ผลิตและนำเข้าบุหรี่จ่ายภาษีล่วงหน้าเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเก็บภาษีกรมสรรพสามิตทั้งปีงบประมาณ 2561 จัดเก็บได้ 5.8 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.95 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 3.3% โดยมีภาษีน้ำมัน เบียร์ และสุรา เป็นสินค้าหลักที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ในขณะที่ภาษีรถยนต์และยาสูบจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า จากแนวโน้มเก็บภาษีบุหรี่ที่เข้าสู่ภาวะปกติและต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มากถึงเดือนละ 30% ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ต้องตัดสินใจว่าจะผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยงานบริการภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยให้เก็บเงินจากบุหรี่อีกซองละ 2 บาท ให้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นเงินปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอหรือไม่ หลังจากที่สัปดาห์มา ครม.ยังไม่เห็นชอบ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า ยังพิจารณากันอยู่ยังไม่ได้ตัดสินใจทำอะไร

ทั้งนี้ หากร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับ จะให้บุหรี่ที่ขายปัจจุบันซองละไม่เกิน 60 บาท จะต้องปรับราคาขายไปเป็นซองละไม่ต่ำกว่า 90 บาท และบุหรี่ที่ขายอยู่ซองละเกิน 60 บาท จะต้องปรับราคาขึ้นอีกซองละไม่ต่ำกว่า 5 บาท

นอกจากนี้ หากมีการเก็บเงินภาษีบุหรี่อีก 2 บาท คาดว่าจะทำให้ยอดขายบุหรี่ลดลงมาก เพราะผู้บริโภคหันไปสูบยาเส้นและบุหรี่เถื่อน ทำให้เงินที่ส่งเข้ากองทุนสุขภาพไม่ถึงปีละ 3,000 ล้านบาท รวมถึงการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตบุหรี่ก็จะต่ำกว่าเป้าหมายมากขึ้น ยังไม่รวมถึงผลกระทบกับผลการดำเนินของการยาสูบแห่งประเทศไทยและชาวไร่ผู้ปลูกใบยาสูบ