กรมศุลฯเร่งสางปมประมูลรถหรูโอดปีนี้ทำรายได้ส่งคลังทรุด500ล้าน

'กุลิศ'รอหารือคืนเงินรถ30คันได้หรือไม่ หลังกรมขนส่งฯเมินจดทะเบียนให้

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างหารือสำนักงานอัยการสูงสุด กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ เพื่อคืนเงินให้กับผู้ประมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของกลางจากกรมศุลกากรไปแล้ว แต่กรมการขนส่งทางบกไม่จดทะเบียนรถยนต์ให้ว่า ประเด็นดังกล่าวทางกรมศุลฯ สามารถคืนเงินให้กับผู้ที่ต้องการคืนรถที่ประมูลไปได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากรมศุลกากรภาค 4 เคยคืนเงินให้กับผู้ประมูลรถยนต์ของกลางและไม่สามารถจดทะเบียนได้ แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นรถที่มีปัญหาคันเดียว แต่ครั้งนี้มีรถที่มีปัญหาถึง 30 คัน เป็นผู้ครอบครองรถ 25 ราย และเงินประมูลรถทางกรมศุลฯ ได้ส่งคลังไปแล้ว จึงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าทำได้หรือไม่

"เท่าที่รับทราบข้อมูลตอนนี้มีบางรายต้องการคืนรถ ทางกรมศุลฯ ก็พร้อมที่จะคืนให้แต่ขอดูข้อกฎหมายให้แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ บางส่วนก็ไม่ต้องการคืนรถแต่ต้องการจดทะเบียน ซึ่งคงต้องไปฟ้องศาลปกครอง เพราะเคยมีผู้ประมูลรถดำเนินการและศาลสั่งให้กรมการขนส่งฯ รับจดทะเบียนให้ ซึ่งต้องดำเนินการเป็นกรณีๆ ไป" นายกุลิศ กล่าว

นายกุลิศ กล่าวว่า รถที่มีปัญหาจดทะเบียนไม่ได้เป็นรถที่ประมูลจาก กรมศุลฯ ไปในปี 2559 และปี 2560 ทำให้การประมูลรถยนต์ปีนี้มีปัญหาต้องเลื่อนการประมูล เพราะกรมการขนส่งฯ ออกหนังสือถึงกรมศุลฯ ว่า จะประมูลรถยนต์ของกลางก็ได้ แต่กรมการขนส่งฯ จะรับจดทะเบียนรถยนต์หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรมการขนส่งฯ ทำให้ผู้ประมูลรถยนต์ไม่มั่นใจและเข้ามาประมูลรถยนต์จากกรมศุลฯ ลดลง

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2561 กรมศุลฯ ไม่ได้ทำการประมูลรถยนต์เลย ทำให้เสียรายได้ไป 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีการประมูลรถนำส่งรายได้เข้าคลังเป็นกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ค้างอยู่ 400-500 คัน เพราะกรมการขนส่งฯ ออกระเบียบว่ารถยนต์ที่ประมูลจากกรมศุลฯ ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเท่ากับว่ารถที่ประมูลได้จากกรมศุลฯ ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งฯได้

นายกุลิศ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวคาดว่าอธิบดีกรมศุลฯ คนใหม่ จะต้องหารือกับอธิบดีกรมการขนส่งฯ คนใหม่ เพราะที่ผ่านมาการรับจดทะเบียนรถยนต์ที่ประมูลได้จากกรมศุลฯ ไม่เคยมีปัญหา นอกจาก 1-2 ปี ที่ผ่านมา โดยก่อนการประมูลรถยนต์ของกลางทางกรมศุลฯ จะทำการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดว่า รถที่จะออกประมูลไม่ได้เป็นรถที่ถูกขโมยมา หรือเป็นรถยนต์ จดประกอบถึงจะนำรถออกมาประมูล

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้กรมการขนส่งฯ ได้แจ้งว่า รถประมูลขายตลาดต้องเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ถึงจะจดทะเบียนได้ หากเป็นรถที่ประกอบจากชิ้นส่วนของรถที่ใช้แล้วที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จะไม่สามารถจดทะเบียนรถได้