ธนาคารกสิกรไทย เผยเอ็นพีแอลไม่ลดเหตุลูกค้าปรับโครงสร้างกลับมาเป็นหนี้เสียอีก ภาคเกษตรหนักสุด เบ่งสินเชื่อปลายปีให้ได้เป้า 4-6%
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพยายามคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สินเชื่อเอสเอ็มอีให้อยู่ 5% ซึ่งขณะนี้มีเอ็นพีแอลไหลเข้ามาอยู่จากลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วกลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีก (รี-เอ็นทรี) เป็นกลุ่มที่ธนาคารพยายามเข้าไปช่วยอย่างต่อเนื่อง ส่วนเอ็นพีแอลจากกลุ่มสินเชื่อปล่อยใหม่นั้นมีน้อยมาก ทำให้ธนาคารสามารถรู้ขอบเขตในการควบคุมเอ็นพีแอลไม่ให้ขยายตัว
ทั้งนี้ กลุ่มที่ลูกค้าที่เป็นเอ็นพีแอลส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับภาคเกษตร อาทิ ธุรกิจรับซื้อสินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบเมื่อราคาผันผวนในทิศทางตกต่ำ ทำให้ธุรกิจขาดทุน และขยายวงติดพันเป็นลูกโซ่ โดยธนาคารกสิกรไทยมีสินเชื่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าเกษตรเพียง 5% ของพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีรวมซึ่งอยู่ที่ 7 แสนล้านบาท
สำหรับยอดคงค้างสินเชื่อเอสเอ็มอี 7 เดือนแรกเติบโต 1% แต่ไม่เปลี่ยนแปลง เป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้เติบโต 4-6% ซึ่งระหว่างนี้ต้องเพิ่มยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ให้สูงขึ้น จากเดิมต้องปล่อยเดือนละ 2.4 หมื่นล้านบาท แต่เพื่อให้ได้ถึงเป้าหมายจากนี้ต้องทำให้ได้เดือนละ 2.6-2.8 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ดี การขยายสินเชื่อจะมาจากการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้เน้นปล่อยสินเชื่อ ลูกค้าเก่าเป็นหลักเพื่อควบคุมความเสี่ยง แต่ขณะนี้แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ทำ ให้เริ่มมั่นใจที่จะปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายใหม่
นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการปล่อยสินเชื่อ แบ่งเป็น แมชีนเลนดิ้ง เสนอสินเชื่อให้ลูกค้าผ่านโมบายแบงก์กิ้ง เคพลัส ซึ่งคาดว่าจะปล่อยได้ 6,000 ล้านบาท ในปีนี้ แต่ขณะนี้ยังปล่อยได้น้อยเพราะลูกค้าไม่ค่อยรู้ว่าธนาคารเสนอสินเชื่อให้
ทั้งนี้ ส่วนที่สองเป็นการปล่อย สินเชื่อโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อคาดการณ์ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเดิม ซึ่งส่วนนี้ได้รับการตอบรับดีมาก ลูกค้าเกิน 50% รับสินเชื่อที่เสนอให้ โดยปล่อยกู้ได้แล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงถึง 4.6% ในครึ่งปีแรก เป็นการเติบโตกระจุกอยู่ที่ธุรกิจรายใหญ่ ส่วนเอสเอ็มอี ในต่างจังหวัดยังไม่ได้รับประโยชน์เพราะ เอสเอ็มอีพึ่งพารายได้เกษตรกรเป็นสำคัญ เมื่อรายได้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลตกต่ำ จึงยังทำให้เอสเอ็มอียังชะลอตัวต่อไป
นายสุรัตน์ กล่าวว่า ได้ติดตามแนวโน้ม ดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้นในขณะนี้ แต่เบื้องต้นไม่กระทบกับธนาคารจนต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าขึ้น
หุ้นเช้า7ธ.ค.ปิดบวก 3.69 จุด
วันที่ 07 ธ.ค. 2561
ทองคำ7 ธ.ค.ไม่ขยับ แท่งขาย 19,250บาท
วันที่ 07 ธ.ค. 2561
บาทเปิด 32.83 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว
วันที่ 07 ธ.ค. 2561
กรณีเงินทอนรถมุ่งล้างสต๊อก
วันที่ 07 ธ.ค. 2561
ผู้ค้าปรับหนีรีดภาษีออนไลน์ เล็งเลิกใช้พร้อมเพย์-คิวอาร์โค้ด หวั่นเข้าข่าย
วันที่ 07 ธ.ค. 2561