posttoday

ลุ้นกดปุ่มปล่อยกู้ใช้ข้อมูลทางเลือก

13 สิงหาคม 2561

การปล่อยสินเชื่อโดยใช้ข้อมูลทางเลือก สลิปเงินเดือนไม่ต้อง บัญชีเงินฝากไม่ใช้ หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่มีก็ได้ กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย

การปล่อยสินเชื่อโดยใช้ข้อมูลทางเลือก สลิปเงินเดือนไม่ต้อง บัญชีเงินฝากไม่ใช้ หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่มีก็ได้ กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย

*******************************

โดย...วารุณี อินวันนา

การปล่อยสินเชื่อโดยใช้ข้อมูลทางเลือก สลิปเงินเดือนไม่ต้อง บัญชีเงินฝากไม่ใช้ หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่มีก็ได้ กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเร็วๆ นี้ หลัง 5 นวัตกรรมทางการเงินพร้อม โดยเฉพาะคิวอาร์โค้ด เทคโนโลยีหน้าบ้าน ที่ถูกวางกระจายตามร้านค้าทั่วหัวระแหงร่วม 2 ล้านแห่ง ที่เชื่อมกับทุกบัญชี ทั้งเงินฝาก อี-วอลเล็ต บัตรเครดิต บัตรเดบิต

วินาทีนี้ ธปท.กำลังจะแปลงร่างบัตรเครดิต บัตรเดบิต ที่เป็นพลาสติกให้เป็นเวอร์ชวลแล้วฝังเข้าไปในโทรศัพท์มือถือ ถึงวันนั้นร้านแม้อุ้ยเขียว บนดอยอินทนนท์ ก็รับบัตรเครดิตได้

บัญชา มนูญกุลชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามองว่า 6 นวัตกรรมจะเข้ามาพลิกโฉมระบบการเงินไทย ซึ่งวันนี้มี 5 นวัตกรรมเกิดขึ้นแล้วในไทย คือ บิ๊กดาต้า เอไอ คิวอาร์ เพย์เมนต์ บล็อกเชน ไบโอเมทริกส์ เหลือเพียงเอพีไอที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

สำหรับเทคโนโลยีอื่นๆ จะทำงานอยู่หลังบ้าน ดูแลข้อมูลให้มีความปลอดภัย ยืนยันตัวตนลูกค้า เก็บข้อมูลต่างๆ จากสังคมออนไลน์แล้วนำไปวิเคราะห์

ขณะที่คิวอาร์เพย์เมนต์ที่ไทยได้พัฒนาให้เป็นมาตรฐานเดียวกันชื่อ ไทย คิวอาร์โค้ด เพย์เมนต์ สแตนดาร์ด หรือ Thai QR Code Payment Standard เป็นเทคโนโลยีหน้าบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่รับชำระเงิน ทำงานโดยมีพร้อมเพย์ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินของประเทศอยู่เบื้องหลัง ที่ผูกติดกับเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีเงินฝาก หมายเลขโทรศัทพ์เคลื่อนที่ อี-วอลเล็ต ไอดี

“คิวอาร์โค้ดของไทยถูกพัฒนาขึ้นมาให้รับชำระเงินได้จากทุกประเภท ซึ่งเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่สามารถทำได้ ทั้งบัญชีธนาคาร อี-วอลเล็ต บัตรเครดิต และบัตรเดบิต ขณะนี้ ธปท.กำลังจะนำมาใช้รับชำระเงินจากบัตรเครดิต โดยจะมีการเปลี่ยนบัตรเครดิตที่เป็นพลาสติกให้เป็นเวอร์ชวลฝังเข้าไปในมือถือ ซึ่งตอนนี้เริ่มทดลองแล้ว อยู่ระหว่างการทดสอบในโครงการแซนด์บ็อกซ์” บัญชา กล่าว

บัญชา กล่าวว่า ในมุมของประชาชนกรณีการจ่ายบัตรเครดิต บัตรเดบิต ผ่านระบบคิวอาร์โค้ด การทุจริตจะหายไปเลย เพราะไม่มีใครเห็นข้อมูลบัตร เพียงนำโทรศัพท์มือถือส่องที่คิวอาร์โค้ดเสร็จ เลือกว่าจะจ่ายเป็นบัตรเครดิตและก็ใส่จำนวนเงิน และดำเนินการชำระเงินด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องส่งบัตรให้กับร้านค้า สะดวก ใช้งานง่าย

ถามว่าปลอมคิวอาร์โค้ดได้ไหม ก็ทำได้ แต่จะปลอมได้เฉพาะคิวอาร์โค้ด ส่วนชื่อผู้รับเงิน หรือชื่อร้านค้า ปลอมไม่ได้ เพราะระบบพร้อมเพย์ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง มีระบบตรวจสอบยืนยันชื่อผู้รับปลายทางก่อนจะอนุมัติโอนเงิน โจรต้องไปปลอมชื่ออีกที และเมื่อไรที่โจรใส่ชื่อตัวเอง หรือชื่อคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชีลงไปก็จบข่าว เพราะมีหลักฐานในการนำจับได้เลย

ฝั่งลูกค้าต้องมีการตั้งรหัสผ่านที่คนอื่นจะเข้าได้ยาก เพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น วันนี้บัตรเอทีเอ็มเป็น 6 หลักแล้วจาก 4 หลัก การให้สามารถจ่ายบัตรเครดิต เดบิต ผ่านคิวอาร์โค้ดได้จะกระตุ้นให้เกิดการบริโภคในมุมต่างๆ ของประเทศ เช่น ร้านค้าอยู่บนดอย ถ้ารับชำระบัตรเครดิตผ่านคิวอาร์โค้ด จะทำให้เกิดความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว และเกิดความปลอดภัยกับร้านค้า เพราะไม่ต้องเก็บเงินสดไว้ที่ร้าน เงินจะเข้าบัญชีร้านค้าโดยตรง ต้นทุนในการติดตั้งคิวอาร์โค้ดก็ต่ำ

“จะช่วยลดต้นทุนในการจับจ่ายใช้สอย การชำระเงิน ทำให้จำนวนธุรกรรมทางการเงินของประเทศพุ่งขึ้นอย่างมากจากปัจจุบัน แต่มูลค่าต่อธุรกรรมจะลดลง เพราะสามารถนำมาชำระสินค้าที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น สมัยก่อนมีแต่พร้อมเพย์เพื่อรับ โอน เงินเดือน ซึ่งอย่างมากเดือนละ 2 ครั้ง ถ้ามีคิวอาร์โค้ดใช้ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น แม้แต่ที่แบงก์ชาติซื้อผลไม้ 15 บาทยังจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด” บัญชา ประเมินผลดีที่จะตามมา

บัญชา กล่าวว่า วันนี้มีร้านค้าที่รับชำระเงินผ่าน Thai QR Code Payment Standard ประมาณ 2 ล้านร้านค้าทั่วประเทศที่กระจายอยู่ตามตลาดสด ในโรงเรียน ร้านริมถนน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ร้านขนมหวาน หรือร้านอื่นๆ ที่มีการไปเช่าพื้นที่ต่างๆ หลังจากที่เปิดรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ จะทำให้เห็นภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชน

เมื่อวันนั้นมาถึงธนาคารจะเห็นว่าร้านค้าที่กระจายตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ทั่วประเทศ มีรายได้เท่าไรต่อเดือน สามารถนำมาใช้ในการพิจารณาปล่อยกู้ได้ โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน หรือบัญชีเงินฝากธนาคาร จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยพัฒนาก้าวไปอีกขั้นหนึ่งที่ดีกว่าวันนี้มาก

คิวอาร์โค้ด จึงเป็นกุญแจที่จะมาปลดล็อก (Unlock) หรือเข้ามาทะลุทะลวง สิ่งที่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงในการปล่อยกู้ ที่ทำให้ธนาคารไม่สามารถปล่อยกู้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และร้านค้าย่อยๆ ได้ยากเย็นมาหลายปี

ทั้งนี้ต้องลุ้นให้การปล่อยสินเชื่อโดยใช้ข้อมูลทางเลือกในประเทศไทยเกิดขึ้นให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ร้านค้าขนาดเล็กๆ ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ได้ต้นทุนทางการเงินที่ถูกกว่าการไปกู้เงินนอกระบบ