posttoday

กยศ.จ่อหักบัญชีลูกหนี้ล้านรายปีหน้า

01 สิงหาคม 2561

กยศ.ตั้งเป้าทยอยดึง ลูกหนี้ข้าราชการและพนักงานเอกชนเข้าระบบหักเงินเดือน เชื่อไม่เป็นภาระเกินไปเฉลี่ยจ่าย 300 บาท/เดือน

กยศ.ตั้งเป้าทยอยดึง ลูกหนี้ข้าราชการและพนักงานเอกชนเข้าระบบหักเงินเดือน เชื่อไม่เป็นภาระเกินไปเฉลี่ยจ่าย 300 บาท/เดือน

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เริ่มมีการหักเงินบัญชีชำระหนี้ กยศ.สำหรับ ข้าราชการกรมบัญชีกลางที่เคยกู้เงินจาก กยศ. และถึงเวลาที่ต้องผ่อนชำระเงิน และในเดือน ส.ค.นี้จะขยายเพิ่มการ หักบัญชีข้าราชการของกระทรวงการคลังทั้งหมด ซึ่งมีอยู่กว่า 1,000 ราย

นอกจากนี้ ในเดือน ต.ค. 2561 จะเริ่มหักบัญชีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ของ กยศ.ที่ได้รับเงินเดือนจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลางผ่านระบบ GFMIS และปี 2562 จะเริ่มใช้มาตรการนี้กับพนักงานเอกชนที่เป็นลูกหนี้ของ กยศ. โดยจะเริ่มกับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มบริษัท ซีพี ที่มีพนักงานเป็นลูกหนี้ กยศ. กว่า 1 แสนราย

"กยศ.ตั้งเป้าในปีหน้าจะมีการหักบัญชีชำระหนี้ กยศ. ได้ 1 ล้านราย ช่วยลดการแก้ไขปัญหาขาดการชำระหนี้ โดยเฉลี่ยลูกหนี้ กยศ.จะปลอดการชำระหนี้ 2 ปีแรก และเริ่มผ่อนชำระในปีที่ 3 เป็นปีแรก 1,500 บาท ปีที่ 2 จำนวน 2,500 บาท และปีที่ 3,000 กว่าบาท เท่ากับยอดหักเงินบัญชีรายเดือนอยู่ที่เดือนละ 100-300 บาทเท่านั้น" นายชัยณรงค์ กล่าว

ปัจจุบัน กยศ. ปล่อยกู้ให้กับนักเรียนไปแล้ว 5 ล้านราย เป็นวงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ปิดบัญชี ชำระหนี้ไปแล้ว 1 ล้านราย และเรียนจบอยู่ระหว่างปลอดชำระหนี้ 2 ปี อีก 1 ล้านราย ที่ครบชำระหนี้มี 3 ล้านราย ในจำนวนนี้ชำระหนี้ปกติ 1 ล้านราย และผิดชำระหนี้ 2 ล้านราย ซึ่งการหักเงินชำระหนี้ผ่านบัญชีจะทำให้ยอดการผิดชำระหนี้ ที่มีอยู่จำนวนมากลดลงได้

นายชัยณรงค์ กล่าวว่า กรณีของ ครูวิภา บานเย็น ที่ค้ำประกันให้กับนักเรียน 21 ราย ในจำนวนนี้ฟ้องปิดบัญชีไปแล้ว 4 ราย เนื่องจากไม่มาชำระหนี้และต้องทำการยึดทรัพย์คุณครูเพื่อมาชำระหนี้ โดยทาง กยศ. ได้ชะลอการบังคับยึดทรัพย์ไปก่อน เพื่อให้นักเรียนเข้ามา ไกล่เกลี่ยชำระหนี้

สำหรับที่เหลืออีก 17 ราย หลังจากที่เป็นข่าวก็มาชำระปิดบัญชี 5 ราย ผิดชำระหนี้อีก 3 ราย เหลืออีก 9 ราย ที่ยังไม่ถึงเวลาชำระหนี้ ซึ่งทาง กยศ.ได้พยายามช่วยเหลือคุณครูโดยให้เด็กนักเรียนมาไกล่เกลี่ยหนี้ดังกล่าว และหาทางแก้ปัญหาในอนาคตจะต้องมีกำหนดเพดานการ ค้ำประกันต่อคนได้ไม่เกินกี่ราย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ กยศ. พบว่าปัจจุบันการค้ำประกันผู้กู้เงิน กยศ. 85% เป็นพ่อแม่ อีก 14% เป็นญาติ พี่น้อง ส่วนคุณครูมีสัดส่วนค้ำประกัน 0.1% แต่ กยศ.ยอมรับว่าขณะนี้คุณครูไม่กล้าที่จะค้ำประกันสินเชื่อให้กับนักเรียน เพราะเกรงว่าในอนาคตอาจจะเป็นภาระต้องมาชำระหนี้แทนนักเรียน