posttoday

สงครามการค้ากระทบไทยหมื่นล้าน

28 มิถุนายน 2561

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินสงครามการค้ากระทบส่งออกไทยกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และจะหนักขึ้นเรื่อยๆในปีถัดไป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินสงครามการค้ากระทบส่งออกไทยกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และจะหนักขึ้นเรื่อยๆในปีถัดไป

นายศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2561 ท่ามกลางสงครามการค้าโลกที่จุดชนวนโดยสหรัฐฯ ถูกกำหนดโดยปัจจัยทางการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า

ทั้งนี้ นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ที่จะยังคงดำเนินการต่อเนื่องไปอีก 2-4 ปีหลังการเลือกตั้งกลางเทอมในช่วงปลายปีนี้ ขึ้นอยู่กับว่าคะแนนนิยมทางการเมืองจะสนับสนุนให้มีท่าทีแข็งกร้าวต่อไป หรือจะผ่อนปรนลง อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายดังกล่าวนำมาสู่การตอบโต้ของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นตัวบั่นทอนการค้าโลก และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า

เบื้องต้น มองว่า การเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งของจีนและสหรัฐ จะมีผลสุทธิที่เป็นลบต่อการส่งออกไทยในภาพรวมปี 2561 ราว 280-420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1700-2800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีถัดไป

"ปริมาณการค้าโลกที่ขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินในปีนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการส่งออกไทยให้ยังเติบโตได้ในระดับสูง จึงปรับประมาณการส่งออกปี 2561 มาอยู่ที่ 8.8%" นายศิวัสน์ กล่าว

น.ส.ณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2561 มาอยู่ที่ 4.5% จากแรงหนุนภาคต่างประเทศ รวมถึงการใช้จ่ายในประเทศมีแรงส่งต่อเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องแล้ว การใช้จ่ายในประเทศทั้งการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภาคเอกชนก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมาจาก ผลผลิตทางการเกษตรที่คาดว่าจะออกมามาก รวมถึงรายได้เกษตรกรที่กลับมาขยายตัวเป็นบวก ตลอดจนการเบิกจ่ายงบกลางปี 2561 รวมถึงหลายโครงการลงทุนภาครัฐจะทยอยเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาได้ จะเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังของปี 2561 ให้สามารถรักษาระดับการเติบโตเฉลี่ยไว้ได้ที่ 4.5%

สงครามการค้ากระทบไทยหมื่นล้าน