posttoday

กสิกรหวังดูแลทรัพย์ล้านล. ช่วยบริหารทรัพย์สิน-หนี้สินลูกค้ากลุ่มไพรเวท จ่อจัดการที่ดินเพิ่มรายได้

28 มิถุนายน 2561

กสิกรไทยเชื่อบริหารทรัพย์สินลูกค้าไพรเวทแบงก์พุ่งแตะ 1.5 ล้านล้าน หลังช่วยบริหารที่ดิน

กสิกรไทยเชื่อบริหารทรัพย์สินลูกค้าไพรเวทแบงก์พุ่งแตะ 1.5 ล้านล้าน หลังช่วยบริหารที่ดิน

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มงานไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินทรัพย์ภายใต้บริหารจัดการ (เอยูเอ็ม) กว่า 7 แสนล้านบาท จากฐานลูกค้ากว่า 1 หมื่นราย โดยทั้งหมดเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน แต่เชื่อว่าเมื่อธนาคารสามารถได้เข้าไปมีส่วนช่วยลูกค้าบริหารสินทรัพย์ที่ไม่ใช่เงิน อาทิ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจของครอบครัวแล้ว จะทำให้เอยูเอ็มเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัวเป็น 1.5 ล้านล้านบาทได้

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับลูกค้าพบว่า มีความต้องการให้ธนาคารช่วยวางแผนทรัพย์สิน หนี้สิน และความเสี่ยง มากขึ้น ซึ่งสินทรัพย์ก็มีภาระภาษี เช่น ที่ดิน ที่ลูกค้าไพรเวทแบงก์สะสมไว้มากมาหลายรุ่น เป็นสินทรัพย์ไม่มีสภาพคล่อง หากส่งมอบให้ทายาทก็เริ่มมีความกังวลภาษี โดยเฉพาะที่ดินทำเลดีกลางเมืองราคาสูงมาก ทายาทก็ไม่มีเงินจ่ายภาษี กลายเป็นความเสี่ยงตามมา

สำหรับธนาคารกสิกรไทยได้มองหาวิธีช่องทางเข้าไปช่วยบริหารจัดการที่ดินลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ซึ่งล่าสุด กำลังรอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติบริการแลนด์โลน หรือสินเชื่อสำหรับลูกค้าไพรเวทแบงก์ที่ใช้ที่ดินมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อนำสภาพคล่องไปลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงกว่า คาดว่าได้ความชัดเจนเร็วๆ นี้ หากได้รับอนุมัติก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที และเป็นก้าวแรกเข้าไปบริหารสินทรัพย์ที่ดินให้ลูกค้าที่เป็นรูปธรรม

นายจิรวัฒน์ กล่าวว่า เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าไพรเวทแบงก์ที่ครอบคลุม เบื้องต้นมีแผนการขยายทีมที่ปรึกษา ทีมประกัน ฝ่ายกฎหมาย เพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ รองรับบริการที่จะเจาะเรื่องการบริหารที่ดิน เพื่อรองรับการเติบโตตามยุทธศาสตร์และโจทย์ของไพรเวทแบงก์ที่เพิ่มขึ้น โดยเป้าหมายรายได้ของไพรเวทแบงก์ ตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปีอย่างต่อเนื่อง

"จุดสำคัญที่ทำให้บริการลูกค้า ไพรเวทแบงก์ประสบความสำเร็จ ต้องเข้าถึงความต้องการของลูกค้าทุกมุม ซึ่งลูกค้าต้องการบริหารความมั่งคั่งที่มากกว่าผลตอบแทนจากการลงทุน โดยลูกค้าระดับบนมีความกังวลเรื่องเก็บรักษา เติบโต และส่งผ่านสินทรัพย์ จึงต้องหาเครื่องมือมาบริหารให้เหมาะสมกับลูกค้าและสภาพตลาด" นายจิรวัฒน์ กล่าว