posttoday

สตาร์ทอัพเชื่อมั่นเศรษฐกิจ

24 พฤษภาคม 2561

ออมสินเผยดัชนีเชื่อมั่นสตาร์ทอัพ ไตรมาสแรกได้แค่ 62.16 ชี้แม้คำสั่งซื้อเริ่มดี แต่ต้นทุนยังสูง พ่วงปัญหาขาดสภาพคล่อง

ออมสินเผยดัชนีเชื่อมั่นสตาร์ทอัพ ไตรมาสแรกได้แค่ 62.16 ชี้แม้คำสั่งซื้อเริ่มดี แต่ต้นทุนยังสูง พ่วงปัญหาขาดสภาพคล่อง

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้จัดทำประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) และดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก

ทั้งนี้ ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพประจำไตรมาสแรก ปี 2561 พบว่าดัชนีสตาร์ทอัพไตรมาสแรกปี 2561 อยู่ที่ระดับ 62.16 ซึ่งสูง กว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพมีความเชื่อมั่น ต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม จาก ปัจจัยด้านผลประกอบการด้านการผลิตและด้านคำสั่งซื้อที่อยู่ในระดับดี โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น ธุรกิจการเงิน การขนส่ง และโลจิสติกส์ การศึกษา และการท่องเที่ยว เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในด้านการตลาดและการให้บริการ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของธุรกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาในแต่ละภาคธุรกิจ ได้แก่ อุตสาหกรรม การเกษตร การค้า และบริการ พบว่าผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพในภาคบริการมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจอยู่ที่ระดับ 68.73 ซึ่งสูงกว่าภาคธุรกิจอื่นที่อยู่ระดับ 57.9-60.5  แต่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพยังคงมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง การเพิ่มขึ้นของต้นทุน และคู่แข่งขัน รวมถึงการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและทักษะเฉพาะทาง

สำหรับการสำรวจในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพมี มุมมองต่อภาวะธุรกิจสตาร์ทอัพในภาพรวมดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 67.75 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณการผลิตและคำสั่งซื้อที่ผู้ประกอบการคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจการแพทย์/สาธารณสุข ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจการเงิน ผู้ประกอบการยังคาดการณ์ว่าต้นทุนยังไม่น่าจะลดลงจากปัจจุบัน

ทั้งนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังติดตาม คือ ปัจจัยทางด้านต้นทุนของ ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่สูงขึ้น ทั้งจากค่าแรง อุปกรณ์การผลิต ราคาน้ำมัน และค่าขนส่ง