ธกส.ปรับกลยุทธ์ใหญ่ เร่งการออมภาคเกษตรกร
ธ.ก.ส.ให้ความสำคัญมากๆ ในปีนี้คือ เรื่องเงินฝากของเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันในยอดเงินฝากคงค้าง 1.52 ล้านล้านบาท จะมี เงินฝากที่เป็นของเกษตรกรประมาณ 3.5 แสนล้านบาท
โดย...กนกวรรณ บุญประเสริฐ
หนึ่งในตัวชี้วัดการดำเนินงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ที่นอกจากการผลักดันให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่ออย่างทั่วถึงแล้ว ในเรื่องของ "การออม" ถือเป็นอีกภารกิจสำคัญที่ในปีบัญชี 2561 นี้ ธนาคารเตรียมปรับกลยุทธ์คิดแผนออกรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรลูกค้าและ ผู้มีรายได้น้อยให้หันมาออมเงินกันมากขึ้น สร้างภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิต
สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้เตรียมทำไว้รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยมีเงินฝากยอดนิยมอย่างสลากออมทรัพย์ที่ยังเป็นที่ต้องการของผู้ฝากเงิน เพราะสามารถออมและมีโอกาสถูกรางวัลได้ในผลิตภัณฑ์เดียว
แนวทางการออกสลากจะใช้วิธีการออกเพื่อทดแทนสลากชุดเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอน เพื่อควบคุมให้ปริมาณสลากมีอยู่มีระดับไม่เกิน 3.6-4 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีเงินฝาก ทวีโชคซึ่งได้รับความนิยม จากเกษตรกรมากเช่นกัน เพราะมีการจับรางวัลให้ผู้ฝากด้วยปีละ 2 ครั้ง ปัจจุบันมียอดเงินฝากคงค้างที่ 2.5 แสนล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินฝากในโครงการอื่นๆ
รายงานข่าวจาก ธ.ก.ส. ระบุว่า สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส.เป็นที่นิยมของประชาชน มาก สะท้อนจากยอดขายสลากชุดเกษตรมั่งคั่งที่ 2 ซึ่งมีวงเงินถึง 6 หมื่นล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายได้หมดภายใน 2 เดือน แม้ธนาคารจะมีการปรับรูปแบบการจ่ายเงินรางวัลใหม่ โดยรางวัลที่ 1 มีมูลค่า 10 ล้านบาท เพียงรางวัลเดียว แล้วกระจายรางวัลย่อยๆ ออกรวมทั้งหมดต่อเดือนกว่า 1.26 ล้านรางวัล คิดเป็นเงินกว่า 83.7 ล้านบาท/งวด
แม้ดอกเบี้ยจะได้เพียง 0.25% ต่อปี หรือฝากครบ 3 ปี ได้ดอกเบี้ยหน่วยละ 0.75 บาท แต่ปรากฏว่าคนตอบรับการปรับรูปแบบการกระจายรางวัลดีมาก เพราะทำให้คนซื้อที่ซื้อสลาก 1 แสนบาท มีโอกาสถูกรางวัลทุกงวด
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังเตรียมปรับรูปแบบการออกสลากใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยและผู้มีรายได้น้อยให้หันมาออมเงินมากขึ้น คาดว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้