posttoday

รัฐลดภาษีล่อใจแบงก์ควบรวม

18 เมษายน 2561

รัฐอัดมาตรการภาษีจูงใจแบงก์พาณิชย์ควบรวมเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันระดับภูมิภาค ธปท.ชี้แบงก์ใหญ่สุดไทยยังห่างชั้นมาเลเซีย

รัฐอัดมาตรการภาษีจูงใจแบงก์พาณิชย์ควบรวมเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันระดับภูมิภาค ธปท.ชี้แบงก์ใหญ่สุดไทยยังห่างชั้นมาเลเซีย

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีทั้งในส่วนของภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ เพื่อจูงใจให้ธนาคารพาณิชย์ในไทยมีการควบรวมให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น สามารถแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศได้

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่าจากมาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 600-1,4000 ล้านบาท แต่จะเกิดการชดเชยด้วยการขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น เช่น การลงทุนปรับปรุงระบบคอร์แบงก์กิ้งและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศประมาณ 3,000-7,000 ล้านบาท/รายที่ควบรวมกิจการและระยะเวลาที่สามารถใช้มาตรการนี้ได้คือ นับแต่เกิดการควบรวมจนถึงวันที่31 ธ.ค. 2565

สำหรับมาตรการจูงใจดังกล่าว เนื่องจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดทำแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 (2559-2563) มีนโยบายหลักด้านหนึ่งคือ การสนับสนุนการเชื่อมต่อการลงทุนในภูมิภาคเพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบการเงินของไทย เพื่อให้สนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนและการเชื่อมโยงของประเทศในภูมิภาค โดยมีมาตรการเพื่อสร้างความพร้อมและลดอุปสรรคของสถาบันการเงินไทยในการขยายกิจการไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อเทียบธนาคารพาณิชย์ไทยกับประเทศในอาเซียนแล้ว พบว่าส่วนของไทยยังต้องพัฒนาทั้งในเชิงประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน ด้านของขนาดเองพบว่าธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของไทยมีสินทรัพย์ขนาดประมาณ 3 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับมาเลเซียมีขนาด 4 ล้านล้านบาท จึงต้องมีมาตรการส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์มีการควบรวมเพื่อให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น

นายณัฐพร กล่าวว่า มาตรการภาษีที่ได้รับการอนุมัติครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนของมาตรการภาษีเพื่อขจัดอุปสรรคของการควบรวมกิจการธนาคารพาณิชย์ไทย และส่วนของมาตรการภาษีที่ให้ธนาคารพาณิชย์ที่เกิดจากการควบรวมทั้งหมด หรือบางส่วนสามารถหักค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายเพื่อการลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการควบเข้ากัน สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้