posttoday

กรมธนารักษ์เปิดใช้เหรียญ-ธนบัตรร.10ครั้งแรก"วันจักรี"

05 เมษายน 2561

"วันจักรี"เบิกฤกษ์ใช้เหรียญกษาปณ์-ธนบัตรรัชกาลที่ 10 เป็นครั้งแรกด้านแบงก์ชาติพร้อมให้เปิดแลกผ่านตู้เอทีเอ็ม และสาขาธนาคารพาณิชย์-แบงก์รัฐ

"วันจักรี"เบิกฤกษ์ใช้เหรียญกษาปณ์-ธนบัตรรัชกาลที่ 10 เป็นครั้งแรกด้านแบงก์ชาติพร้อมให้เปิดแลกผ่านตู้เอทีเอ็ม และสาขาธนาคารพาณิชย์-แบงก์รัฐ

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์พร้อมเปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วันจักรี 6 เม.ย.นี้ เป็นวันแรก โดยจำกัดการจ่ายแลก 1 คน ต่อ 1 ชุด เพื่อให้ประชาชนได้รับอย่างทั่วถึง โดย 1 ชุด ประกอบด้วย เหรียญ 10 บาท จำนวน 40 เหรียญ มูลค่า 400 บาท เหรียญ 5 บาท จำนวน 40 เหรียญ มูลค่า 200 บาท เหรียญ 2 บาท จำนวน 100 เหรียญ มูลค่า 200 บาท เหรียญ 1 บาท จำนวน 100 เหรียญ มูลค่า 100 บาท เหรียญ 50 สตางค์ จำนวน 200 เหรียญ มูลค่า 100 บาท และเหรียญ 25 สตางค์ 20 เหรียญ มูลค่า 5 บาท รวมเงินที่จ่ายแลก 1 ชุด มีมูลค่า 1,005 บาท

“ในวันแรกกรมฯจะมีเหรียญให้เปิดแลกทั้งหมด 6 ชนิด จำนวน 211 ล้านเหรียญ ในราคา 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ และ 25 สตางค์ ส่วนเหรียญ 1 สตางค์ 5 สตางค์ และ 10 สตางค์ จะไม่เปิดจ่ายแลกเนื่องจากไม่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ แต่จะผลิตเพื่อใช้ในทางบัญชีเท่านั้น”

ทั้งนี้การจะเริ่มเปิดจ่ายแลกในวันแรก จะเริ่มตั้งแต่ 8.30-15.30 น. ณ หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2618 6340, 0 2273 0899-902 ต่อ 5115 หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯโทร 0 2282 4109-10 หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โทร. 0 2565 7943-49 และศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ของกรมธนารักษ์ 6 แห่ง ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ นครสวรรค์ สงขลา และสุราษฎร์ธานี และตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.เป็นต้นไปจะเปิดให้ประชาชนได้จ่ายแลกเป็นปกติ

นายพชรกล่าวว่า ยืนยันว่าเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะใช้ควบคู่กับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร โดยขนาดเหรียญจะเท่ากันทุกชนิด สามารถใช้บริการตู้หยอดเหรียญชนิดต่างๆ ได้ตามปกติ และหลังจากนี้ กรมฯ ตั้งเป้าหมายภายในปีนี้จะผลิตเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 10 เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ 2,345 ล้านเหรียญ โดยส่วนหนึ่งจะผลิตเองจากโรงกษาปณ์ และบางส่วนจะนำเข้าจากเยอรมนี และฝรั่งเศส เนื่องจากโรงกษาปณ์มีกำลังการผลิตจำกัดเพียง 1,300 ล้านเหรียญต่อปีเท่านั้น โดยปัจจุบันมีเหรียญในระบบ 3 หมื่นล้านเหรียญ มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท

สำหรับลักษณะของเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ทั้ง 9 ชนิดราคา กรมธนารักษ์ ได้ออกแบบเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยด้านหน้าเหรียญทุกชนิดราคา กลางเหรียญมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์เต็มยศทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า เบื้องขวามีข้อความว่า “มหาวชิราลงกรณ” เบื้องซ้ายมีข้อความว่า “รัชกาลที่ 10” ด้านหลังเหรียญทุกชนิดราคา กลางเหรียญมีอักษรพระปรมาภิไธย วปร ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องบนมีข้อความว่า “ประเทศไทย” และคำว่า “พ.ศ.” และเลขของปี พ.ศ. ที่จัดทำเหรียญ เบื้องล่างมีข้อความบอกชนิดราคาของเหรียญ สำหรับเหรียญชนิดราคา 5 บาท และ 50 สตางค์ ลวดลายด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญวงในเป็นรูปสิบเหลี่ยม