posttoday

ทริสเพิ่มเครดิตบางจาก เป็น A-จาก BBB+

12 ตุลาคม 2553

บริษัท ทริสเรทติ้ง ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตบางจาก เป็น A-จาก BBB+

บริษัท ทริสเรทติ้ง ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตบางจาก เป็น A-จาก BBB+

บริษัท ทริสเรทติ้ง  ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP)เป็น “A-” ด้วยแนวโน้ม
“Stable” หรือ “คงที่” จากเดิมที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำ มันให้เป็นโรงกลั่นแบบซับซ้อน (Complex Refinery) และส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจการตลาดน้ำมัน  ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นพลังงานทดแทน

นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงการได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจจาก บริษัท ปตท. (ปตท.) รวมถึงการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอื่น ๆ อีกทั้งยังพิจารณาถึงความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าการกลั่นด้วย สำหรับ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าหน่วยแตกโมเลกุลชุดใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงกลั่นที่มีอยู่และเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงให้แก่บริษัท และคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้

นอกจากนี้ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้ าพลังแสงอาทิตย์จะสร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่บริษัทซึ่งน่าจะช่วยลดความผันผวนของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันได้บางส่วน

ทริส ระบุว่า  การที่โรงกลั่นน้ำมันที่ปรับปรุงสมบูรณ์แบบนั้นทำให้BCPกลั่นน้ำมันได้หลากหลายชนิดมากขึ้น    และ ยังให้ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น ด้วย ปัจจุบันสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่กลั่นประกอบด้วย น้ำมันดีเซล 53% น้ำมันเบนซิน 18% น้ำมันเตา 15% และน้ำ มันอากาศยาน10% เทียบกับในอดีตก่อนการปรับปรุงโรงกลั่น ดีเซล 36%  เบนซิน 15%  น้ำ มันเตา 33%และ น้ำมันอากาศยาน 11% และ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 บริษัทมีค่าการกลั่น พื้นฐานเพิ่ม ขึ้น เป็น 5.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และใช้กำลังการกลั่น เพิ่มขึ้น จาก 7.92หมื่นบาร์เรลต่อวัน  ในปี 2552 เป็น 8.34 หมื่นบาร์เรลต่อวัน  ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งบริษัทคาดว่าโรงกลั่น น้ำ มันของบริษัทจะมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น จากระดับ 50%-60% ในอดีตเป็น 80% ในอนาคตอันใกล้

บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ย จ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจำนวน 2,787 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 โครงสร้างเงินทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจโดยมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับ 38.3% ณ สิ้น เดือนมิถุนายน 2553 บริษัทมีแผนการลงทุนสำหรับโครงการใหม่ในระหว่างปี 2553-2556 มูลค่ารวม6,450 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้ าพลังแสงอาทิตย์ โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำ มันเบนซินตามมาตรฐาน EURO IV และโครงการปรับปรุงคุณภาพปล่องไอเสียโรงกลั่น (Tail Gas Treatment)

ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติง้ ยังประกาศคงอันดับเครดิตระดับ "AA" ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ให้แก่ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 4,000 ล้านบาท (BCP141A) ของบริษัทบางจากปิโตรเลียมซึ่งออกโดย บริษัท สยามดีอาร์ จำกัดด้วย โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงปัจจัยสนับสนุนในรูปของการรับประกันต้นเงินโดยกระทรวงการคลังในการซื้อ คืนใบแสดงสิทธิในราคาที่เสนอขายครั้งแรกหากบริษัทบางจากปิ โตรเลียมไม่สามารถชำระหนีต้ ามกำหนดเวลา นอกจากนี ้ยังสะท้อนถึงลักษณะของโครงสร้างธุรกรรมที่คุ้มครองผู้ถือใบแสดงสิทธิและคุณภาพเครดิตของบริษัทอ้างอิงคือบริษัทบางจากปิโตรเลียมด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ“คงที่” ของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทบางจากปิ โตรเลียมเป็ นผลมาจากการรับประกันต้นเงินจากกระทรวงการคลังและคุณภาพเครดิตของบริษัทบางจากปิโตรเลียม