โรงงานยาสูบรายได้วูบ เตรียมขอกู้จ่ายเงินเดือนพนักงาน

โรงงานยาสูบมึนพิษภาษีใหม่ รายได้วูบ เตรียมขอกู้เงิน คาดขาดสภาพคล่องในเดือน พ.ค.นี้

น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานยาสูบอยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อขอกู้เงินมาใช้ใน 2 เรื่อง คือ 1.ลงทุนค่าเครื่องจักรที่โรงงานยาสูบแห่งใหม่ในปีนี้ ประมาณ 2,900 ล้านบาทจากงบลงทุนทั้งหมด 7,000 ล้านบาท และ 2.ใช้เสริมสภาพคล่องที่คาดว่าจะเริ่มมีปัญหาตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไปรวมถึงสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงาน 2,800 คน

“ที่โรงงานยาสูบต้องขอกู้เงินโดยให้คลังมาช่วยค้ำประกันให้ หรือกรณีไม่ค้ำก็ต้องรอให้ยกระดับเป็นนิติบุคคลก่อน ทั้งนี้เนื่องจากภาษียาสูบใหม่ทำให้โรงงานยาสูบไม่มีกำไร จากเดิมที่มีสภาพคล่องเข้ามาเดือนละ 4,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือสภาพคล่องไม่ถึง 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะพอใช้ถึงเดือน พ.ค.นี้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปวงเงินกู้ คาดว่าจะเป็นหลักพันล้านบาท” น.ส.ดาวน้อย กล่าว

ทั้งนี้ จากการปรับปรุงแก้ไขภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่ตั้งแต่เดือน ก.ย.2560 ทำให้โรงงานยาสูบแม้จะขายได้ก็เป็นการขายที่ไม่มีกำไร เพราะเจอปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและการลดราคาจากคู่แข่ง โดยส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้เหลือ 56% จากที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 80% จำนวนผลิตลดลงเหลือ 1.8 หมื่นล้านมวน จากเดิมที่คาดว่าจะผลิต 3 หมื่นล้านมวน ทำให้นอกจากไม่มีกำไรแล้ว ยังเป็นปีแรกที่โรงงานยาสูบอาจจะเผชิญภาวะขาดทุน เนื่องจากยังมีภาระค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตใบยา โรงพยาบาล และอื่นๆ ประมาณ 1,500 ล้านบาท/ปี อย่างไรก็ตามโรงงานยาสูบยังมีแผนปรับปรุงแผนธุรกิจ เช่น การออกสินค้าใหม่ หรือการหารายได้จากช่องทางอื่น