posttoday

ครม.ให้คลังค้ำเงินกู้ขสมก.จ่ายหนี้

05 ตุลาคม 2553

มติ  ครม.ให้ก.คลังค้ำเงินกู้ ขสมก. 2,041 ล้านบาท ชำระหนี้พร้อมจี้ปรับโครงสร้างทั้งระบบ

มติ  ครม.ให้ก.คลังค้ำเงินกู้ ขสมก. 2,041 ล้านบาท ชำระหนี้พร้อมจี้ปรับโครงสร้างทั้งระบบ

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดในปีงบประมาณ 54 จำนวน 2,041.677 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการ เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

พร้อมทั้งให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)เกี่ยวกับการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของ ขสมก.และให้ ขสมก.เร่งดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กร และลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขประเด็นปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการปรับปรุงการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและลดภาระหนี้สินที่สะสมมาต่อเนื่องทุกปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย และ ครม.มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดูเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างของ ขสมก.ทั้งระบบด้วย

ในปีงบประมาณ 54 ขสมก. ถึงกำหนดต้องชำระค่าดอกเบี้ยตามสัญญาเงินกู้ 2,338.400 ล้านบาท ซึ่ง ขสมก.จะนำรายได้ค่าโดยสารคงเหลือไปชำระหนี้ค่าดอกเบี้ย 296.723 ล้านบาท โดยยังขาดเงินเพื่อชำระหนี้ดังกล่าว 2,041.677 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาฐานะการเงินจากประมาณการเงินสดรับ-จ่ายในปีงบประมาณ 54 ขสมก. มีเงินสดรับ 8,394.306 ล้านบาท เงินสดจ่าย 20,639.569 ล้านบาท และเงินสดขาดมือ 12,245.263 ล้านบาท

ดังนั้น เพื่อให้ ขสมก.สามารถดำเนินการบริหารกิจการได้เพียงพอโดยมีเงินสดคงเหลือปลายงวด 185.234 ล้านบาท ขสมก.จึงต้องกู้เงิน 8,999.034 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ที่ถึงกำหนด ประกอบด้วย ต้นเงินกู้ 6,957.357 ล้านบาท และดอกเบี้ยพันธบัตร 2,041.677 ล้านบาท รวมทั้งค้างชำระค่าใช้จ่าย 3,431.464 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าน้ำมัน 2,252.316 ล้านบาท ค่าเหมาซ่อม 920.148 ล้านบาท และกองทุนบำเหน็จพนักงาน 259.000 ล้านบาท

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีมติเห็นชอบให้ ขสมก.กู้เงินเพื่อชำระหนี้ที่ถึงกำหนดดังกล่าวแล้วในการประชุม ครั้งที่ 6/2553 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.53