posttoday

แบงค์รัฐมอบของขวัญปีใหม่ ตอบแทนลูกค้ามีวินัย

26 ธันวาคม 2560

ธนาคารรัฐมอบของขวัญปีใหม่ ธอส.แจก 1พันบาทลูกค้ามีประวัติชำระหนี้ดี ธ.ก.ส.คืนดอกเบี้ย30%ของจำนวนดอกเบี้ยที่จ่ายในปี61

ธนาคารรัฐมอบของขวัญปีใหม่ ธอส.แจก 1พันบาทลูกค้ามีประวัติชำระหนี้ดี ธ.ก.ส.คืนดอกเบี้ย30%ของจำนวนดอกเบี้ยที่จ่ายในปี61

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ที่จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560  ได้มีมติรับทราบและเห็นชอบโครงการของขวัญปีใหม่ปี 2561 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ 2 กลุ่ม มาตรการ

กลุ่มแรก โครงการเพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย  โครงการของขวัญปีใหม่ 2561 เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินสำหรับลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะจ่ายเงินจำนวน 1,000 บาท ให้กับลูกค้ารายย่อยที่มีประวัติผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลัง 48 เดือน ที่ไม่เป็นหรือไม่เคยเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NPLs) และมีวงเงินกู้รวมวงเงินกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 1,000,000 บาท โดยต้องเป็นผู้กู้ที่มีการชำระเงินงวดของเดือนธันวาคม 2560 ในช่วงระหว่างวันที่ 1 – 31 ธันวาคม 2560 ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับของขวัญจำนวนประมาณ 165,107 ราย

ถัดมาเป็น โครงการชำระดีมีคืนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ธ.ก.ส. จะคืนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า30% ของจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 สำหรับลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ไม่เกิน 300,000 บาท โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับของขวัญเป็นเกษตรกรจำนวน 2.3 ล้านราย

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า มาตรการกลุ่มที่ 2 การสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยธนาคาอาคารสงเคราะห์ได้จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อยทั่วไป และบุคลากรภาครัฐ รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนและมีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดถึง 40 ปี รวมทั้งมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ไม่เกินวันที่ 28 ธันวาคม 2561 หรือเมื่อธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อเต็มวงเงินโครงการแล้ว โดยมีรายละเอียดโครงการสรุปได้ ดังนี้

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและประชาชนผู้มีรายได้น้อย วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท วงเงินสูงสุดต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 2.75% ต่อปี กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ3.00%ต่อปี สำหรับกรณีวงเงินกู้มากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบา

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บุคลากรภาครัฐ) สำหรับบุคลากรภาครัฐตามที่ธนาคารกำหนด วงเงินโครงการรวม 30,000 ล้านบาท ไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อราย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก ดอกเบี้ย MRR-3.75% ต่อปี หรือเท่ากับ3% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.75% ต่อปี)

มาตรการสุดท้ายของกลุ่มนี้ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับประชาชนผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงบุคลากรภาครัฐตามที่ธนาคารกำหนด ที่มีภูมิลำเนาหรือมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี วงเงินโครงการรวม 1,000 ล้านบาท วงเงินสูงสุดต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับประชาชน ผู้มีรายได้น้อยและบุคลากรภาครัฐ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ใน 5 ปีแรก อยู่ที่ 2.50% ต่อปี

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า  ครม. ยังได้เห็นชอบการขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ของ ธอส.และ ธ.ก.ส. ได้แก่ การขอแยกบัญชีโครงการทั้ง 2 กลุ่ม  เป็น PSA เพื่อนำผลกระทบรายได้และค่าใช้จ่ายมาปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงให้นำส่วนดังกล่าวบวกกลับเป็นกำไรสุทธิเพื่อคำนวณโบนัสพนักงาน

สำหรับโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส.  ขอไม่นับรวม NPL ที่เกิดจากการดำเนินโครงการเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของ ธอส. สำหรับกรณีที่ NPL ภายใต้โครงการดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วน NPL ของ ธอส. สูงกว่าค่าเฉลี่ยรวม