ธนชาตปักธงสินเชื่อรถยนต์

ธนาคารธนชาตปักธง เป็นเจ้าตลาดสินเชื่อรถยนต์ หวังกินส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในระบบ

แหล่งข่าวจากธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปรับแนวทางการทำธุรกิจใหม่ โดยนำเอาจุดแข็งของธนาคารที่เป็นเจ้าตลาดสินเชื่อรถยนต์กลับมาเป็นธุรกิจหลัก หลังจากที่ได้ปรับภาพลักษณ์จนเป็นที่รับรู้ว่าธนาคารเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแรงและมีผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลาย โดยในปีนี้ตั้งเป้าขยายสินเชื่อรถยนต์ 20% ซึ่งคาดว่าจะได้ตามเป้าหมายเพราะตลาดรถยนต์เริ่มฟื้นตัวและมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น

"เดิมธนาคารไม่เน้นภาพลักษณ์เรื่องสินเชื่อรถยนต์มากนัก เพราะเกรงว่าคนจะคิดว่าเรามีแต่รถยนต์ ตามฐานธุรกิจเดิมที่เคยทำมาตั้งแต่สมัยยังเป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ แต่ขณะนี้คนเข้าใจแล้ว อีกทั้งมีผลดำเนินการจากธุรกิจค่อนข้างดี ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ธนชาต รถแลกเงิน ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ดังนั้นธนาคารจึงจะมุ่งเน้นเป็นหนึ่งในใจลูกค้า หากลูกค้าจะซื้อรถยนต์ ต้องการสินเชื่อและประกัน ก็จะต้องนึกถึงธนาคารธนชาตก่อนคนอื่น" แหล่งข่าวเปิดเผย

ทั้งนี้ สินเชื่อรถแลกเงิน ธนาคารเน้นสมัครสินเชื่อออนไลน์ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยสร้างแพลตฟอร์มการสมัครสินเชื่อออนไลน์ใหม่ที่เพิ่มการให้ข้อมูลเจาะลึกที่ลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะการเช็กราคารถยนต์ที่จะซื้อ วงเงินสินเชื่อ และค่างวดผ่อนต่อเดือนที่แน่นอน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่อยากรู้มากที่สุดและเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเบื้องต้น

สำหรับภาพรวมสินเชื่อรถแลกเงิน ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 4,000-5,000 คัน เป็น 6,000 คัน วงเงินสินเชื่อเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 4-5 แสนบาท ถือว่าเป็นการให้วงเงินที่สูง เพราะสินเชื่อรถแลกเงินเป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพดี ผู้ขอสินเชื่อเป็นเจ้าของรถเอง และมีประวัติผ่อนชำระดีต่อเนื่องจนหมดภาระ จึงสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำ และแคมเปญผ่อนแสนละ 59 บาท/วัน ได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันธนชาตมียอดคงค้างสินเชื่อรถแลกเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาท

นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต กล่าวว่า แม้ว่าแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารจะลดลงในอนาคต จากการที่ประชาชนหันไปใช้พร้อมเพย์ หรือธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ตามการส่งเสริมสังคมไร้เงินสด แต่ธนาคารยังไม่ได้รับผลกระทบจากค่าธรรมเนียมที่ลดลง เนื่องจากธนาคารมีการหารายได้อื่นๆ เข้ามาช่วยชดเชย เช่น การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ จากการออกบัตรเดบิตใหม่ หรือการออกบัญชีออมทรัพย์ธนชาตสมาร์ท โซลูชั่น

นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากตลาดรถยนต์ที่ฟื้นตัว ชดเชยส่วนที่หายไปได้ ดังนั้นคาดว่าปีนี้รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารน่าจะยังเติบโตได้ 2 หลัก