กรมศุลกากรตั้งศูนย์รับมือภาษีสรรพสามิตใหม่

คลังยันภาระภาษีรายเก่าไม่เพิ่ม หวังดึงให้เสียภาษีถูกต้อง ด้าน "บิ๊กตู่" บี้พาณิชย์หาความจริงร้านค้าตุนสินค้า

นายชัยยุทธ คำคุณ รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร กรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาการดำเนินการตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 รองรับการแก้ไขปัญหาการผ่านพิธีการศุลกากร ของผู้ประกอบการรวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร หลังจากที่ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีผลบังคับเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับสินค้านำเข้าและต้องเสีย ภาษีสรรพสามิต ได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ บุหรี่ รถยนต์ เครื่องสำอาง ซึ่งมีการเปลี่ยนฐานราคาเก็บภาษีจากราคาสำแดงนำเข้ามาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ซึ่งการตั้งศูนย์จะช่วยให้ผู้ประกอบการเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าว่า พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่ ไม่ได้มีเป้าหมายทำให้ผู้ประกอบการมีภาระภาษีเพิ่ม ซึ่งภาษีที่เก็บได้เพิ่ม 2% หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท คือ สินค้าที่ไม่เคย เสียภาษี เช่น เครื่องดื่มชา กาแฟ และ สินค้าที่เคยเสียภาษีจากฐานราคานำเข้า (ซีไอเอฟ) เมื่อมาเสียภาษีจากฐานราคาขายปลีกทำให้ต้องเสียภาษีมากขึ้น

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ไปตรวจสอบร้านค้าส่งที่ปิดร้านหรือหยุดขายสินค้าในช่วงก่อนที่ภาษีสรรพสามิตจะมีผลบังคับใช้ รวมทั้งสั่งให้กระทรวงการคลังจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สูงอายุที่ต้องการสละสิทธิการรับเบี้ยผู้สูงอายุให้เสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้