เคทีซีเผยธุรกิจปล่อยกู้สินเชื่อบุคคลแข่งดุ

เคทีซีเผยสินเชื่อส่วนบบุคคลยังขยายตัวดีต่อเนื่อง แต่ยอมรับการแข่งขันสูง ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้า 1.6 แสนราย ขายสินเชื่อเพิ่มเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท

น.ส.สุดาพร  จันทร์วัฒนากุล  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า ที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อบุคคลของเคทีซีมีการขยายตัวต่อเนื่องในทุกมิติ โดยมีส่วนแบ่งในตลาดสูงขึ้น จากสัดส่วนของลูกหนี้เทียบกับอุตสาหกรรมเพิ่มเป็น 6.5% ในไตรมาสแรก จากสิ้นปีที่แล้วที่ 5.7% ซึ่งในปีนี้เราเล็งเห็นสภาวะการณ์แข่งขันในธุรกิจสินเชื่อบุคคลมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากผู้ประกอบการเดิมและการเข้ามาทำธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการสินเชื่อได้พิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่การขยายตัวของบริการเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) ยังไม่ได้กระทบการทำธุรกิจของเคทีซี ส่วนหนึ่งเพราะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) ยังไม่ได้อนุญาตให้บริการใหม่เพิ่มมากนัก

อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 และในปี 2560 นี้ เคทีซีจะใช้แผนกลยุทธ์การตลาดรุกธุรกิจสินเชื่อบุคคลให้แตกต่างหลากหลาย เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยสมาชิกจะได้เห็นรูปแบบและกิจกรรมการตลาดที่ชัดเจนในทุกมิติ ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก 1) ขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มเป้าหมายวิชาชีพต่างๆด้วยความระมัดระวัง ผ่านช่องทางการตลาดที่ได้รับความนิยมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ด้วยแอพพลิเคชั่น Click KTC บนเว็บไซต์ www.ktc.co.th และโมบายแอพพลิเคชั่น TapKTC  2) พัฒนาระบบสนับสนุนการขยายฐานสมาชิกสินเชื่อใหม่ เน้นสมัครง่าย รวดเร็ว รู้ผลไวภายใน 30 นาที ทั้งสมัครผ่านร้านค้าพันธมิตรของ หรือที่ศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” ทุกแห่ง  3) จัดกิจกรรมการตลาดในวงกว้างและแบบเฉพาะเจาะจง  4) รักษาและสร้างความผูกสัมพันธ์กับฐานสมาชิกในระยะยาว (Loyalty Program) ผ่านเวิร์คช้อปเสริมสร้างความรู้เพื่อพัฒนาไปสู่การสร้างอาชีพเสริมและสร้างรายได้ ด้วยแนวคิด “Quality of Life” ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินและการออมให้กับกลุ่มสมาชิก

"ปีนี้เราตั้งเป้าจะขยายสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่ม 15% ให้ยอดสินเชื่อคงค้างหรือพอร์ตเพิ่มเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท และขยายลูกค้าเพิ่มอีกประมาณ 1.6 แสนราย จากสิ้นปีที่แล้วที่มีพอร์ตอยู่ที่ 2.01 หมื่นล้านบาท มีฐานลูกค้าสมาชิก 8.18 แสนบัญชี ส่วนปัญหาหนี้เสียกรณีที่เศรษฐกิจแย่จริงๆก็คงเพิ่มไม่มากนัก อาจจะอยู่ที่ประมาณ 1% กว่าๆ จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.9% ของสินเชื่อรวม" น.ส.สุดาพรกล่าว