ไอพีโอยังคึกต่อ

ยันได้ตามเป้าตลท.ชี้ขัดแย้งต่างประเทศไม่กระทบ

โพสต์ทูเดย์ - ตลท.มองความขัดแย้งระหว่างประเทศยังไม่กระทบ ปีนี้ไอพีโอคึก กว่า 3 เดือนมาร์เก็ตแคปหุ้นใหม่ 9.39 หมื่นล้าน

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้มั่นใจว่ายังเห็นบริษัทที่จะเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) เข้ามาจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และสามารถถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) 2.8 แสนล้านบาท เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีมาร์เก็ตแคปหุ้นเข้าใหม่รวม 9.39 หมื่นล้านบาท จากทั้งหมด 9 แห่ง แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ 4 แห่ง และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ 5 แห่ง ซึ่งถือว่าออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ยังไม่รวมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศ (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ภายในช่วงกลางปีนี้ มีมูลค่าระดมทุนประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท จากสินทรัพย์ขายเข้ากองทุนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในเส้นทางบูรพาวิถี และฉลองรัช

สำหรับบริษัทต่างชาติในแถบประเทศเพื่อนบ้านมีความสนใจจะเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย โดยปีนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุป 1 ราย และมีบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาอีก 3-4 ราย

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า กรณีความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศถือเป็นเหตุการณ์เบื้องต้นที่ยังไม่สามารถประเมินผลทางลบกับประเทศไทย ต้องรอดูเหตุการณ์และปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาสแรกที่ออกมากลางเดือน พ.ค. และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้ลงทุนสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ตลาดหุ้นหลายประเทศมีความแข็งแกร่งและไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ใดฃๆ

สำหรับมาตรา 44 ที่รัฐปรับแก้กฎหมายให้สิทธิปกป้องผู้ถือหุ้นส่วนน้อยใช้สิทธิได้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเข้ามาช่วยในกรณีที่ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิเสียงตนเองได้ ถ้าผู้บริหาร บจ.ไม่สามารถตอบสนองได้ หรือเป็นเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล โดยที่ทั้งสองฝ่ายคือทั้งผู้บริหารและผู้ลงทุนไม่สามารถทำหน้าที่ที่ดีได้ ก็ยังเป็นหนทางให้กับผู้ถือหุ้นส่วนน้อยได้รักษาสิทธิตัวเอง เพื่อให้บริษัทได้ดำเนินต่อไป