posttoday

รีดภาษีบุหรี่ไม่กระทบราคาขายปลีก

05 มกราคม 2560

ยาสูบเผยภาษีใหม่ไม่กระทบราคาบุหรี่ แต่โรงงานอาจต้องจ่ายภาษีเพิ่มอีกปีละ 1,200 ล้าน

ยาสูบเผยภาษีใหม่ไม่กระทบราคาบุหรี่ แต่โรงงานอาจต้องจ่ายภาษีเพิ่มอีกปีละ 1,200 ล้าน

น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานยาสูบได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเตรียมประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ว่าจะมีผลกระทบอย่างไร เบื้องต้นคาดว่าผลจากการปรับวิธีคิดภาษีมาคำนวณจากฐานราคาขายปลีก จะไม่ทำให้ภาพรวมราคาขายปลีกบุหรี่ที่ขายให้ผู้บริโภคปรับราคาขึ้นมากนัก

“แต่ผลจากการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตบุหรี่มากกว่า และอาจทำให้โรงงานยาสูบต้องเสียภาษีเพิ่มอีกปีละ 1,200 ล้านบาท จากปัจจุบันที่เสียภาษีอยู่แล้วราวปีละ 5 หมื่นล้านบาท”น.ส.ดาวน้อย กล่าว

สำหรับผลดำเนินงานปี 2559 โรงงานยาสูบมียอดขายกว่า 7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาบุหรี่ปรับตัวสูงขึ้นจากการเพิ่มอัตราการเก็บภาษีบุหรี่ตามมูลค่า จาก 87% เป็น 90% เต็มเพดานที่กำหนดไว้ แต่จำนวนมวนยังมียอดขายไม่แตกต่างจากเดิม โดยปีนี้สามารถทำกำไรได้ 8,985 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งโรงงานยาสูบมา เนื่องจากได้เน้นเรื่องการลดค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการ และสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบ เช่น ก้นกรอง ซองบุหรี่ได้ จึงทำให้มีกำไรจากส่วนนี้เข้ามาเพิ่ม

ด้าน นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการแผนกบรรษัทสัมพันธ์ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ผู้นำเข้าบุหรี่ กล่าวว่า กฎหมายปฏิรูปภาษีสรรพสามิตถือเป็นความคืบหน้าสำคัญในนโยบายการปฏิรูปภาษีของกระทรวงการคลังที่ต้องการสร้างความโปร่งใส ความเป็นธรรม และความเรียบง่ายในการจัดเก็บภาษี หลังจากที่กรมสรรพสามิตพยายามปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวมาเกือบ 10 ปี

อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร เนื่องจากต้องรอดูกฎหมายลูกที่จะออกมาก่อน ทั้งนี้จะต้องคำนึงในหลายเรื่อง อาทิ สัดส่วนการเก็บภาษีระบบผสมที่จะเก็บทั้งขาปริมาณและขามูลค่า อัตราการจัดเก็บจริง รวมทั้งหลักเกณฑ์วิธีการพิจารณาราคาขายปลีกแนะนำ เพื่อให้รัฐยังคงได้รายได้เท่าเดิม และช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า การเก็บภาษีบุหรี่ที่มีการคำนวณเก็บภาษีแบบผสมทั้งด้านปริมาณและด้านราคา แต่เดิมส่วนใหญ่จะคำนวณการเสียภาษีจากด้านราคา แต่เมื่อร่างกฎหมายใหม่บังคับใช้ จะมีการพิจารณาลดอัตราภาษีด้านราคาลดลง แต่จะเพิ่มอัตราภาษีด้านปริมาณให้มากขึ้น เพื่อป้องกันบุหรี่ราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในไทย