posttoday

ร้านแลกเงินต่างประเทศรุ่ง แห่เปิดร้านเพิ่ม68แห่ง

29 ธันวาคม 2559

ธปท.เผยร้านรับแลกเงินเดือน พ.ย.ปีนี้เพิ่ม 68 แห่ง ขยายตัวตามแนวโน้มท่องเที่ยวที่ดี

ธปท.เผยร้านรับแลกเงินเดือน พ.ย.ปีนี้เพิ่ม 68 แห่ง ขยายตัวตามแนวโน้มท่องเที่ยวที่ดี

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานยอดผู้ประกอบธุรกิจเป็นบุคคลรับอนุญาต (Money Changer) หรือร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในเดือน พ.ย. 2559 มีจำนวนเพิ่มขึ้น 68 แห่ง จากเดือน ม.ค.ปีนี้มี 1,828 แห่ง เพิ่มเป็น 1,896 แห่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกภาคทั่วประเทศ ยกเว้นภาคกลางที่ลดลง

ทั้งนี้ จำนวนผู้ประกอบการในภาคกลางรวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล 851 แห่ง ลดลง 13 แห่ง ใน จ.ชลบุรี และเพชรบุรี ในภาคใต้ 888 แห่ง เพิ่ม 75 แห่ง ตามพื้นที่ท่องเที่ยวในภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ด้านภาคเหนือ 119 แห่ง เพิ่ม 4 แห่ง ในเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 38 แห่ง เพิ่ม 2 แห่ง ในหนองคายและมุกดาหาร

สำหรับปริมาณการซื้อขายเงินตราต่างประเทศของร้านรับแลกเงินทั้งหมด ณ เดือน ต.ค. 2559 อยู่ที่ 470 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ 36 บาท/เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากต้นปี 1,404 ล้านบาท และมียอดขาย 465 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,512 ล้านบาท

ด้าน น.ส.ชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ เอ็กเชน เปิดเผยว่า แม้อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดโลกจะผันผวน แต่ธุรกิจร้านรับแลกเงินไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยังสามารถทำกำไรและขยายธุรกิจได้ โดยมีสาขารวม 28 แห่ง และอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตเปิดอีก 3-4 แห่ง ซึ่งในเดือน ธ.ค.นี้ ธปท.เปิดให้ยื่นขอใบอนุญาต แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายที่ปรับตัวรับมือกับระเบียบกฎเกณฑ์ของทางการไม่ได้ เพราะต้องใช้ทุนเพิ่มในการจ้างคนและปรับระบบไอทีให้รองรับการจัดทำรายงานธุรกรรมเงินสด โดยการทำรายการตั้งแต่ 5 แสนบาท ต้องจัดทำรายงานหมดเป็นส่วนหนึ่งของการให้ความร่วมมือในการป้องกันการก่อการร้ายและป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งรายที่ปรับตัวไม่ได้ต้องปิดตัวไป

"นักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงกระทบไม่มาก เพราะปกติทัวร์จีนจะถูกควบคุมจากไกด์ เงินหยวนที่มาแลกเลยไม่ได้มากอยู่แล้ว ธุรกิจร้านอาหารหรือโรงแรมที่เคยรับทัวร์จีนน่าจะกระทบมากกว่า และการที่พฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่หันมาเดินทางเที่ยวเอง ไม่ผ่านทัวร์ จองตั๋วโลว์คอสต์ จองโรงแรมออนไลน์เอง โดยเฉพาะไปเกาหลีและญี่ปุ่นที่ไม่ต้องขอวีซ่า ก็ช่วยทำให้เรามีลูกค้ามาแลกเงินตลอดปี แม้ไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว เนื่องจากคนในวัยทำงานจะเลือกเที่ยวกัน เองได้ตลอดปี ทำให้ธุรกิจเรายังโตได้ดี" น.ส.ชนาพร กล่าว