posttoday

สินเชื่อหดหนี้เน่าพุ่งทุบสถิติ

10 พฤศจิกายน 2559

ธปท.เผยสินเชื่อหดต่ำสุดในรอบ 6 ปี โตเพียง 2.4% ต่ำกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ แถมหนี้เน่ายังเพิ่มมากสุดในรอบ 5 ปี โดยหนี้บัตรเครดิตพุ่งสูงในรอบ 11 ปี

ธปท.เผยสินเชื่อหดต่ำสุดในรอบ 6 ปี โตเพียง 2.4% ต่ำกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ แถมหนี้เน่ายังเพิ่มมากสุดในรอบ 5 ปี โดยหนี้บัตรเครดิตพุ่งสูงในรอบ 11 ปี

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ปีนี้สินเชื่อขยายตัวเพียง 2.4% ต่ำสุดในรอบ 6 ปี และเป็นการขยายตัวต่ำกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทย นับเป็นไตรมาสที่ 3 ที่สินเชื่อน่าจะโตได้น้อยกว่าจีดีพี โดยสินเชื่อภาพรวมยังมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 2.89% ของสินเชื่อรวมที่ 11.78 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นระดับเอ็นพีแอลที่สูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2554 ที่เอ็นพีแอลเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 2.95% โดยสินเชื่อรายย่อยเอ็นพีแอลมากสุดในสินเชื่อบัตรเครดิตมากที่สุด จาก 4.25% เพิ่มเป็น 5.10% ซึ่งสูงสุดในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2548

“คาดว่าเอ็นพีแอลปีนี้ยังไม่น่าจะขึ้นไปสูงสุด น่าจะไปพีคสุดในปีหน้าประมาณไตรมาส 1 หรือ 2 มากกว่า เนื่องจากในไตรมาส 4 ปีนี้ธนาคารน่าจะมีการบริหารจัดการหนี้ที่ดีขึ้น ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้และการตัดหนี้ขายเพื่อดูแลระดับหนี้เสียไม่ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลปกติในทุกปลายปี อย่างไรก็ดี เอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นมาไม่ได้น่ากังวลมากนัก เนื่องจากเป็นระดับที่ลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ โดยพึ่งจะมาปรับขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้” นายดอนกล่าว

ทั้งนี้ จากคุณภาพหนี้ที่ลดลงทำให้ธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองเพิ่มขึ้นทั้งระบบรวม 2.1 หมื่นล้านบาท เป็น 5.132 แสนล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองที่พึงกันตามเกณฑ์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 161.6% จากไตรมาสก่อน 161.3% อย่างไรก็ดีถึงหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นมีการกันสำรองมากขึ้น แต่ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรจากการดำเนินงานในระดับสูง 9.71 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.98 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารสามารถลดต้นทุนรายจ่ายด้านดอกเบี้ยเงินฝากได้ดี