posttoday

บลจ.กสิกรยันตุรกีไม่กระทบเทอมฟันด์

16 กรกฎาคม 2559

บลจ.กสิกรไทย แจงเทอมฟันด์ลงทุนในเงินฝาก-ตราสารหนี้ในตุรกีบางส่วนสำหรับกองทุนที่ขายนักลงทุนกลุ่ม AI ย้ำนักลงทุนมั่นใจได้ทีมวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างรัดกุม พร้อมเกาะสถานการณ์ใกล้ชิด

บลจ.กสิกรไทย แจงเทอมฟันด์ลงทุนในเงินฝาก-ตราสารหนี้ในตุรกีบางส่วนสำหรับกองทุนที่ขายนักลงทุนกลุ่ม AI ย้ำนักลงทุนมั่นใจได้ทีมวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างรัดกุม พร้อมเกาะสถานการณ์ใกล้ชิด

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์รัฐประหารในตุรกีเมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค. 59 ที่ทหารบางกลุ่มพยายามเข้ายึดอำนาจการปกครองจากประธานาธิบดี นายรีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโดยค่าเงินลีราของตุรกีอ่อนค่าลงทันที 5.37%  ซึ่งปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีการลงทุนบางส่วนในเงินฝากและตราสารหนี้ระยะสั้นของธนาคารชั้นนำในตุรกีที่มีระดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ โดยเกือบทั้งหมดเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการ (เทอมฟันก็) ซึ่งมีอายุ 3 เดือน 6 เดือนและ 12 เดือน

อย่างไรก็ตามกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่นำเสนอขายสำหรับผู้ลงทุนในกลุ่ม AI หรือผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง โดยบลจ.กสิกรไทยมีกระบวนการพิจารณาคัดเลือกและวิเคราะห์ความเสี่ยงของตราสารและประเทศที่ลงทุนอย่างรอบคอบและรัดกุม อาทิ การกำหนดสัดส่วนการลงทุนในตุรกีในกองทุนเทอมฟันก็ไม่เกิน 40% ของมูลค่ากองทุน

นอกจากนี้กองทุนเทอมฟันก็ยังมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100% และไม่มีการลงทุนในตราสารในสกุลเงินของตุรกี เนื่องจากกองทุนจะลงทุนในรูปของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงไม่เกิดผลกระทบโดยตรงจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินตุรกีแต่อย่างใด

นายวศิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยได้วิเคราะห์เศรษฐกิจก่อนเหตุการณ์ในครั้งนี้ ว่าตุรกีมีอัตราการเติบโตของจีดีพีที่แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 4.2% ในปี 2558 และจากการที่ค่าเงินตุรกีมีเสถียรภาพขึ้น ในปีนี้จึงคาดว่าภาคธนาคารจะยังมีผลประกอบการที่ดี ผู้ลงทุนจึงสามารถคลายความกังวลได้ อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยจะมีการติดตามสถานการณ์และประเมินเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดผลกระทบแก่ผู้ลงทุนน้อยที่สุด

ทั้งนี้ การรัฐประหารในตุรกีเนื่องจากความไม่พอใจที่นายเออร์โดกันต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญจากระบบรัฐสภามาเป็นระบบประธานาธิบดี ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย จนถึงขณะนี้สถานการณ์มีแนวโน้มผ่อนคลายลงโดยรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เพราะกลุ่มนายทหารระดับสูงรวมทั้งองค์การนาโต้ให้การสนับสนุนรัฐบาล