posttoday

ครม.เคาะเกณฑ์ออกสลากการกุศลงวดละไม่เกิน 22ล้านฉบับ

12 กรกฎาคม 2559

ครม.กำหนดเกณฑ์ออกสลากการกุศลไม่เกิน 22 ล้านฉบับ พร้อมตั้งคณะกรรมการพิจารณาการออกสลากให้รมช.คลังเป็นประธาน

ครม.กำหนดเกณฑ์ออกสลากการกุศลไม่เกิน 22 ล้านฉบับ พร้อมตั้งคณะกรรมการพิจารณาการออกสลากให้รมช.คลังเป็นประธาน

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การออกสลากการกุศล  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาโครงการออกสลากการกุศล ขึ้นมา 1 ชุด  มีรมช.กระทรวงการคลังเป็นประธาน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ รวม  9 คน มีผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งเป็นกรรมการและเลขานุการทั้งนี้ให้มีหน้าที่ พิจารณาอนุมัติการออกสลากการกุศลตามที่มีหน่วยงานรองขอ รวมทั้งที่ประชุมครม.ยังได้อนุมัติหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการออกสลากการกุศลด้วย

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในการพิมพ์จะต้องเป็นไปเพื่อการกุศลในด้านสาธารณสุข การลดความเหลือล้ำทางสังคม  เช่นกลุ่มผู้พิการ ผู้ด้วยโอกาส เด็ก ผู้สูงอายุ เป็น ต้น  ที่ไม่ได้รับเงินจัดสรรจากรัฐหรือไม่เพียงพอ  ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่รัฐจัดให้ช่วยเหลือ และไม่มีลักษณะเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการบริหารจัดการหรือดำเนินกิจกรรมส่งเสริมทั่วไป รวมถึงเป็นโครงการที่กองสลากไม่เคยช่วยมาก่อน เนื่องจากก่อนหน้าการอนุญาต เป็นการให้อำนาจกรรมการพิจารณาในภาพกว้างทำให้มีการขอเข้ามาจำนวนมาก  และขาดการติดตาม ควบคุมการนำเงินไปใช้ประโยชน์ของหน่วยงานที่ได้รับอย่างเป็นรูปธรรม 

ให้ออกสลากการกุศลงวดละไม่เกิน 11 ล้านคู่ หรือ 22  ล้านฉบับ และเมื่อรวมทุกโครงการแล้วจะต้องไม่เกิน  1 หมื่นล้านบาทของ ในแต่ละรอบการของการพิจารณาอนุมัติของคณะกรรมการฯ  จากจำนวนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการออกจำนวน  50 ล้านคู่ฉบับในแต่ละงวด  และการอนุมัติรอบใหม่จะทำเมื่อได้จบโครงการแรกและ  ได้มีการจ่ายเงินให้หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนเสร็จแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายได้ของภาครัฐที่จะนำมาพัฒนาประเทศขณะเดียวกัน วงเงินที่ให้หน่วยงานผู้ขอก็เหมาะสมกับกิจกรรม   และหลังจากจบโครงการให้มีการสรุปรายได้  รายจ่ายและโครงการที่นำเงินไปใช้เพื่อแจงต่อคณะกรรมการและรายงานในหน้าเว็บไซด์ของกระทรวงการคลังเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้

สำหรับเงินที่ได้ให้มีการจัดสรรดังนี้  60%  เป็นเงินรางวัล  22.5%  เป็นรายได้จ่ายให้กับเจ้าของโครงการ  0.5% เก็บเป็นภาษีการพนัน  และไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าบริการงาน ซึ่งร่วมถึงค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่ง

"แต่ละโครงการคาดว่าจะใช้เวลาจำหน่ายประมาณ 25 งวด  รายได้1,700 ล้านบาทต่องวด หากคำนวณว่าต้องให้กับผู้ขอสัดส่วน 22.5% ตามหลักเกณฑ์จะตกประมาณ 400  ล้านบาท ที่ต้องไปหารแบ่งกัน"นายกอบศักดิ์กล่าว

สำหรับการพิจารณาครั้งนี้เนื่องจากสำนักงานกองสลากได้มีการพิมพ์ จัดจำหน่ายและ จ่ายเงิน สลากการกุศลที่ได้เคยมีการอนุมัติไว้  12,999  ล้านบาท จำนวน 10  หน่วยงาน ครบทั้งหมดเมื่อ 16 ส.ค. 58