ปปง.จับตาฟอกเงินดิจิทัล

ปปง.ตั้งทีมพิเศษเกาะติดฟอกเงินยุคดิจิทัล เตรียมพร้อมรับมือ อี-เพย์เมนต์ และฟินเทค

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการที่ปรึกษาประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และรักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ปปง.ได้ประชุมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อประสานงานการกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน

ขณะเดียวกัน ปปง.ได้จัดตั้งทีมงานพิเศษขึ้นติดตามวิวัฒนาการ หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ๆ ในการฟอกเงินในยุคดิจิทัล ซึ่งขณะนี้รัฐบาลจะผลักดันนโยบายการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนต์) รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ ตราสารหนี้แบบแปลกๆ รวมถึงการนำฟินเทคมาใช้บริการด้านการเงินและการนำเงินด้วยสกุลเงินที่เสมือนจริง เช่น บิตคอยน์มาชำระจ่ายกันในออนไลน์ รวมถึงบัตรเงินสด หรือการโอนเงินผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง ปปง.จะต้องติดตามให้ทัน

"ปัจจุบัน ปปง.มีทีมงานด้านเทคโนโลยีที่จะติดตามตรวจสอบทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาพบการทำความผิดที่เข้าข่ายการฟอกเงินผ่านอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย  เช่น เฟซบุ๊ก และมีหน่วยงานของรัฐดู และการกระทำความผิดในอินเทอร์เน็ต ซึ่งธุรกรรมส่วนใหญ่ต้องทำผ่านธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์จึงต้องติดตามและแจ้ง ปปง.เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินที่มีการโอนเงินที่ผิดปกติด้วย" พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว

ทั้งนี้ กฎหมาย ปปง.กำหนดให้การโอนเงินหรือชำระเงินทางอินเทอร์เน็ต หากเป็นธุรกรรมเงินสด 1 แสนบาทขึ้นไป หรือเป็นการหักจากบัญชีมูลค่า 7 แสนบาทขึ้นไป ต้องรายงานธุรกรรมทุกเดือนเพื่อป้องกันการฟอกเงิน

นอกจากนี้ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ว่าด้วยการกำกับ ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินของผู้มีหน้าที่รายงาน โดยกำหนดว่า ปปง.จะมีการกำกับและตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ปปง. เกี่ยวกับการรายงานการทำธุรกรรม การจัดให้ลูกค้าแสดงตน หรือการตรวจสอบเพื่อทราบ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการเก็บรักษาเอกสาร เป็นต้น

ขณะเดียวกัน จะมีการรายงานผล การกำกับ ตรวจสอบ ประเมินผล และประเมินความเสี่ยงต่อคณะกรรมการ ที่จัดตั้งขึ้น หากพบว่าผู้มีหน้าที่รายงานมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะมีการพิจารณาดำเนินตามกฎหมาย ต่อไป โดยเลขาธิการ ปปง.อาจมีหนังสือแจ้งเตือนหรือแจ้งคำแนะนำเป็นหนังสือไปยังผู้มีหน้าที่รายงานเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายได้