posttoday

ไม่หวั่นหนี้เน่ากระฉูด

18 กุมภาพันธ์ 2559

นักวิเคราะห์เชื่อแบงก์คุมเข้มปล่อยกู้ โอกาสน้อยเอ็นพีแอลจะพุ่ง 6% ยกเว้นบริษัทยักษ์ล้ม

นักวิเคราะห์เชื่อแบงก์คุมเข้มปล่อยกู้ โอกาสน้อยเอ็นพีแอลจะพุ่ง 6% ยกเว้นบริษัทยักษ์ล้ม

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เป็นไปได้น้อยมากที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบธนาคารพาณิชย์จะขึ้นถึง 6% ตามที่ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการอังค์ถัดคาดไว้ หากจะเกิดขึ้นต้องมีบริษัทขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารหลายแห่งล้ม คล้ายบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณ ธุรกิจขนาดใหญ่ในไทยยังมีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรอบนี้เป็นผู้มี รายได้น้อย ความเสี่ยงเอ็นพีแอลที่สูงขึ้นจะเป็นลูกค้าเอสเอ็มอีที่สายป่านสั้นและ รายย่อยเป็นหลัก สังเกตจากหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (Special Mention Loan) ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จะเป็นเอ็นพีแอลหรือ ไม่ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ซึ่งธนาคารพาณิชย์ก็ช่วยลูกค้าใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เสีย

"ธนาคารมองว่าเอ็นพีแอลของระบบจะปรับขึ้นสูงสุดเป็น 3% ในช่วงกลางปีนี้ ก่อนปรับลดลงเป็นไม่ถึง 3% ในสิ้นปี โดยธนาคารขนาดเล็กจะมีเอ็นพีแอลสูงกว่า เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้ารายย่อยและผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงมากกว่า ขณะที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อรัดกุมมากขึ้นและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลใกล้ชิด เชื่อว่า เอ็นพีแอลไม่พุ่งสูงถึง 6%" นายอมรเทพ กล่าว

น.ส.ธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ยังมองว่าเอ็นพีแอลสิ้นปีนี้อยู่ที่ 3% ปรับขึ้นจาก 2.56% เมื่อสิ้นปีที่แล้ว โดยระหว่างปีอาจจะปรับขึ้นสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 แต่ไม่น่าจะถึงระดับ 6% เพราะเศรษฐกิจดีและการควบคุมของธนาคารพาณิชย์ต่อเนื่อง ทำให้เอ็นพีแอลลดลงในช่วงปลายปี

"ยอมรับว่ามีความกังวลความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและตัวเลขภาระหนี้ต่อรายได้ของเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดาก็เพิ่มขึ้น สะท้อนว่าสภาพคล่องตึงตัวอาจทำให้เอ็นพีแอลสูงขึ้น แต่จะไม่สูงถึง 6% เพราะธนาคารเองก็ระมัดระวัง" น.ส.ธัญญลักษณ์ กล่าว