ยอดกู้นาโนไฟแนนซ์ไม่ขยับ
ธปท.เผยนาโนไฟแนนซ์เปิดแล้ว 9 ราย มียอดสินเชื่อเพียง 150 ล้านบาท
ธปท.เผยนาโนไฟแนนซ์เปิดแล้ว 9 ราย มียอดสินเชื่อเพียง 150 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ล่าสุด ณ สิ้นปี 2558 พบว่า มีผู้ประกอบการแสดงความสนใจเป็นจำนวนมากพอสมควร แต่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์และได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังเพียง 25 ราย แต่มีความพร้อมที่จะเปิดบริการปล่อยกู้ได้เพียง 9 ราย ซึ่งใน 9 รายสามารถให้กู้ทั่วประเทศได้รวม 150 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ธปท.ไม่ได้เปิดเผยถึงระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ว่ามีมากน้อยเพียงใด แม้ว่าจะกำหนดให้บริษัทที่ปล่อยกู้ต้องส่งรายงานจำนวนรายที่ปล่อยกู้ยอดเงินให้กู้ และยอดแอลพีแอลในทุกเดือนก็ตาม
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้กู้ได้อีก 16 ราย อยู่ระหว่างเตรียมการเปิดให้บริการ ซึ่งต้องเปิดทำการภายใน 1 ปี ตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2558 กระทรวงการคลังคาดหวัง ว่าโครงการให้กู้นาโนไฟแนนซ์จะสามารถปล่อยกู้ได้ในวงเงินสูงสุดที่ 8.02 หมื่นล้านบาท
ด้าน นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์ นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ หรือ "ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ" กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทเริ่มให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มาตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ให้บริการในตลาดสดไปแล้วประมาณ 70 แห่ง ทำให้มียอดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 20 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่เดือนละ 10 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เฉลี่ยวงเงินให้สินเชื่ออยู่ที่รายละ 2-3 หมื่นบาท
ทั้งนี้ มีแผนที่จะขยายกลุ่มลูกค้าออกไปเพื่อให้บริการครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เช่น ร้านขายข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ขายอยู่บริเวณริมถนน ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เวลานี้อยู่ประมาณ 2.5% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ปล่อยสินเชื่อให้ยังเป็น กลุ่มเดิม
"เราไม่อยากเร่งให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มากเกินไป เนื่องจากยังเป็นของใหม่ ต้องใช้เวลาศึกษาเรียนรู้ก่อน แม้จะมีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อเข้ามามาก จึงต้องดูความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วย แต่ในอนาคตมีแผนที่ขยายสินเชื่อไปยังเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และอุดรธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดข้อมูลของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน" นายปิยะศักดิ์ กล่าว
สำหรับสินเชื่อรวมของบริษัท ปีนี้ตั้งเป้ามีลูกหนี้คงเหลืออยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มียอดลูกหนี้คงเหลืออยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2557 มากกว่า 3,000 ล้านบาท หรือ 25% ส่วนรายได้จากธุรกิจประกันของบริษัทมียอดอยู่ประมาณ 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 50 ล้านบาท หรือ 22%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะรักษาสัดส่วนเอ็นพีแอลไว้ให้ อยู่ระดับไม่เกิน 2% ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีเอ็นพีแอล ไม่ถึง 1.5%