ไทยเข้มแข็งหล่นใส่แบงก์รัฐ1.45หมื่นล้าน

โพสต์ทูเดย์ — คลังเทงบไทยเข้มแข็งให้ธนาคารรัฐ 1.45 หมื่นล้าน หวังเป็นฟันเฟือง อัดสินเชื่อเข้าสู่ระบบ

นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลเตรียมเบิกจ่ายเงินงบประมาณผ่านระบบการคลังอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเข้าสู่ระบบได้ในสัปดาห์นี้ 1.45 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ งบดังกล่าวเป็นวงเงินสำหรับการเพิ่มทุนให้สถาบันการเงินของเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 2,000 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 3,000 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) 5,000 ล้านบาท ธนาคารออมสิน 3,000 ล้านบาท ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) 2,500 ล้านบาท

“จะเบิกจ่ายรอบแรกวันนี้ ให้สถาบันการเงิน 3 แห่ง จำนวน 1 หมื่นล้านบาท และวันที่ 28 ก.ย. อีก 4,500 ล้านบาท” นพ.พฤฒิชัย กล่าว

สำหรับโครงการอื่นๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง วงเงิน 1.43 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะทยอยอนุมัติโครงการลงทุนต่างๆ โดยมีเป้าหมายการเบิกจ่ายให้ได้ 90% ขั้นตอนวิธีการจ่ายเงินงบประมาณ หน่วยงานเจ้าของต้องเปิดบัญชีเงินฝากคลังสำหรับงบไทยเข้มแข็งกับธนาคารรัฐวิสาหกิจ และเบิกจ่ายผ่านระบบ GFMIS เพื่อให้ติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินได้ และเชื่อว่าการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างเหลือ 28 วัน จะช่วยให้เม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น

วานนี้ที่ประชุมวุฒิสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติพิจารณาเรื่องด่วนร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ปรากฎว่ามีสมาชิกแสดงความคิดเห็นคัดค้านและทักท้วงจำนวนมาก ในการพิจารณาแต่ละมาตรา โดยสมาชิกส่วนหนึ่งพยายามจะขอแปรญัติและต่อรองเพื่อผันงบประมาณลงไปในพื้นที่ของตัวเอง

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ยืนยันว่ารัฐบาลจะใช้จ่ายอย่างโปร่งใส และย้ำว่า ถึงแม้เศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้น เพราะนักลงทุนภาคเอกชนมุ่งหวังเม็ดเงินลงทุนของรัฐบาลเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่าสิ้นเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้าเม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบ