กสิกรเร่งสปีด เพิ่มยอดสิ้นปี มั่นใจรักษาที่1

บลจ.กสิกรไทย ยอมรับปีนี้เอยูเอ็มไม่เข้าเป้า เร่งปั๊มยอดปลายปี มั่นใจยังรักษาตำแหน่งเบอร์ 1 ได้

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (เอยูเอ็ม) ปีนี้แม้จะเติบโตจากปีก่อน แต่ไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.2 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามในปีนี้จะยังสามารถรักษาส่วนแบ่งอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมไว้ได้ในทุกกลุ่มกองทุน

“เราไม่ยอมเป็นที่ 2 อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นช่วงไตรมาสสุดท้ายจะเร่งสปีดไม่ให้แพ้ สำหรับกองทุนหุ้นอาจจะมีบางช่วงที่ส่วนแบ่งการตลาดลดลงไปบ้าง เพราะปีนี้ตลาดหุ้นไม่ขยับเท่าไร ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเข้ามาใกล้กันมาก แต่ยังคงมีส่วนต่างอยู่” นายวศิน กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 เอยูเอ็ม ของ บลจ.กสิกรไทย อยู่ที่ 1.11 ล้านล้านบาท และเมื่อสิ้นปี 2557 อยู่ที่ 1.09 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ นายวศิน ยังกล่าวถึงแนวโน้มเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ในช่วงไตรมาส 4 ว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปี 2557 ที่มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนเพิ่มประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า

“ปีนี้ทั้งปีมียอดซื้อกองทุน LTF และ RMF เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับลดลงจะมียอดซื้อเข้ามามาก แสดงว่านักลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุน และมองหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม แต่ยอดซื้อส่วนใหญ่น่าจะยังเข้ามาในไตรมาส 4 เช่นเดียวกับปีที่ผ่านๆ มา เพราะฉะนั้นปีนี้ก็น่าจะเติบโตได้ใกล้เคียงกับปี 2557” นายวศิน กล่าว

ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน พบว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (เอ็นเอวี) ของกองทุน LTF อยู่ที่ 6.27 หมื่นล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 24.76% ลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่เท่ากับ 26% กองทุน RMF อยู่ที่ 4.37 หมื่นล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 26.33% ลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่เท่ากับ 26.99% โดยทั้งสองเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด

นอกจากนี้ นายวศิน ยังกล่าวถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเภทกองทุนร่วม (Pooled Fund) ขณะที่กองทุนเดี่ยว (Single Fund) มีการแพ้ชนะกันได้ง่าย