posttoday

บัตรเครดิตปรับตัวลดค่าทวงหนี้

27 กรกฎาคม 2558

เคทีซีปรับรับกฎหมาย ลดค่าทวงลงเหลือ 180 บาท จากเดิมคิด 250 บาท

เคทีซีปรับรับกฎหมาย ลดค่าทวงลงเหลือ 180 บาท จากเดิมคิด 250 บาท

บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) ทำหนังสือแจ้งลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตเคทีซี ว่า ได้มอบหมายให้บริษัท วินเพอร์ฟอร์มานซ์ ซึ่งเป็นตัวแทนติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระลดอัตราการเก็บค่าทวงหนี้ลง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2558 โดยบริษัทจะเก็บค่าติดตามทวงถามหนี้ 180 บาท/งวดค้างชำระแทน โดยไม่นับรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ลดลงจากเดิมที่คิดประมาณ 200-250 บาท

แหล่งข่าวจากเคทีซี เปิดเผยว่า สาเหตุที่ลดค่าติดตามทวงหนี้ลง เนื่องจากกฎหมายทวงหนี้ที่จะบังคับใช้เดือน ก.ย.นี้ ในมาตรา 13 ระบุห้ามคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ เกินกว่าที่คณะกรรมการกำหนด คือ สินเชื่อบุคคลต้องไม่เกิน 28% บริษัทบัตรเครดิตและผู้ให้สินเชื่อส่วนบุคคลจำเป็นต้องปรับตัวรองรับกฎหมายดังกล่าว จากเดิมที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้คิดค่าติดตามทวงถามหนี้ตามความเป็นจริง ต้องเปลี่ยนให้รวมกันแล้วไม่เกิน 28%

นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า การปรับลดค่าติดตามทวงหนี้ของธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นันแบงก์) ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เข้าใจว่าไม่ได้มาจากหลักเกณฑ์ในกฎหมายทวงหนี้ มาตรา 13 เพราะการบังคับใช้ดังกล่าวต้องรอคณะกรรมการกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าทวงหนี้ประชุม และกำหนดอัตราที่เรียกเก็บให้ชัดเจนก่อน

ด้าน นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัญหาที่ต้องติดตามดูต่อไป คือ ถ้ากฎหมายติดตามทวงหนี้มีผลบังคับใช้และนำค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และการติดตามหนี้มารวมกันแล้ว ในกรณีที่เป็นลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง และธนาคารคิดค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยเต็มเพดาน 28% อยู่แล้ว เท่ากับว่าธนาคารจะคิดค่าติดตามทวงหนี้ไม่ได้ เพราะหากคิดเพิ่มอาจจะเกินจากที่กฎหมายกำหนด จึงต้องฟัง ธปท.และดูรายละเอียดก่อน

นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานชมรมผู้ติดตามหนี้ที่เป็นธรรม กล่าวว่า พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ก.ย.นี้ เริ่มเห็นว่ามีธุรกิจการติดตามมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การปรับลดค่าธรรมเนียมการทวงหนี้