หม่อมอุ๋ยเผยศก.ไทยครึ่งปีแรกมีโอกาสโต3%

รองนายกฯชี้ จีดีพีไทยยังดีกว่าสิงคโปร์ ครึ่งปีแรกโตใกล้ 3% ปลุกขวัญเอกชนเร่งลงทุน

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่หลายฝ่ายคิด เพราะในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำในปัจจุบัน จีดีพีไทยครึ่งแรกปีนี้มีโอกาสเติบโตใกล้เคียง 3% สูงกว่าการเติบโตของจีดีพีสิงคโปร์ แต่ที่เป็นปัญหา คือ ขวัญกำลังใจของภาคเอกชนในการบริโภคและการลงทุน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. กระทรวงการค้าของสิงคโปร์ แถลงว่า จีดีพีไตรมาส 2 หดตัว 4.6% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.2% และหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนขยายตัว 1.7% ทำให้ครึ่งแรกของปีขยายตัว 2.25%

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวถึงการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ว่า ยอมรับว่าผิดหวัง เพราะตั้งใจเข้ามาเร่งการลงทุนขนาดใหญ่ตั้งแต่เริ่มรัฐบาล แต่ผ่านมา 6 เดือน พบปัญหาเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถเร่งได้อย่างที่คิด

อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐคิดเป็นเพียง 20% ของจีดีพี ขณะที่การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนมีสัดส่วนสูงสุดในจีดีพี แต่ถึงกระนั้นการลงทุนภาคเอกชนก็ไม่ได้ติดลบ ยังขยายตัว 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีโรงงานและอุตสาหกรรมที่ได้บีโอไอเริ่มลงทุน

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะมีการปรับลดจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 3% จากเดิมที่คาดไว้ 3.7% ซึ่งนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ได้เปิดเผยข้อมูลไปแล้ว

สำหรับการปรับลดจีดีพีครั้งนี้ เนื่องจากส่งออกจะติดลบ 1.7% จากเดิมโต 0.2% การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 2-3% ไม่สูงมาก ส่วนการลงทุนภาครัฐขยายตัวมากกว่า 15% เนื่องจากมีการเร่งลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“คลังมั่นใจว่าเศรษฐกิจปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 3% เนื่องจากการลงทุนภาครัฐมีการเบิกจ่ายรวดเร็วมากขึ้น” นายกฤษฎา กล่าว