posttoday

KTAMทริกเกอร์เอเชียเหนือ2เดือนรับ5%

25 มีนาคม 2558

บลจ.กรุงไทย เฮ! บริหารกองทุนทริกเกอร์หุ้นเอเชียเหนือ เข้าเป้า 5% ในเวลา 2 เดือน

บลจ.กรุงไทย เฮ! บริหารกองทุนทริกเกอร์หุ้นเอเชียเหนือ เข้าเป้า 5% ในเวลา 2 เดือน
   
นางชวินดา หาญรัตนกูล  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM)เปิดเผยว่า บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนกองทุนเปิดเคแทม นอร์ท เอเชีย อิควิตี้ 5% ทริกเกอร์ ฟันด์ (KTNA5)ซึ่งลงทุนหุ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย 5% โดยใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งถึงเป้าหมายก่อนครบอายุโครงการที่กำหนดไว้ 6 เดือน

ทั้งนี้ กองทุนจะสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งหมด  ไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์  ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนได้ในวันที่ 30  มีนาคม 2558  เป็นต้นไป
   
"ในช่วงที่เปิดขายกองทุนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเห็นโอกาสจากราคาหุ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือค่อนข้างถูก ขณะเดียวกันกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทได้เน้นลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นและจีน  ซึ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเมื่อวันที่ 17-18 ก.พ.และค่าเงินเยนยังมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกและทำให้บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการเชิงบวกเพิ่มขึ้น"นางชวินดา กล่าว
   
นอกจากนี้ตลาดหุ้นจีนยังได้รับปัจจัยบวกจากธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% ตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา  ทำให้สภาพคล่องในตลาดเพิ่มสูงขึ้น และตลาดยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ จากรัฐบาลที่จะเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ  ซึ่งปัจจัยต่างๆมีส่วนช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนได้ดี
   
นางชวินดา กล่าวว่า สำหรับผู้ที่สนใจกองทุนตราสารหนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 64 (KTFF64 ) เสนอขายในวันที่  25-31 มี.ค.2558   อายุโครงการ 3เดือน  เน้นลงทุนตราสารต่างประเทศ ประมาณ 80%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินบริษัท บัตรกรุงไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.90 % ต่อปี   และอยู่ระหว่างเปิดจำหน่ายรอบใหม่ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น1 ( KTFIX3M1)เสนอขายถึงวันที่  27  มี.ค.2558 อายุโครงการ 3 เดือน  เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล  81% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารทิสโก้  ผลตอบแทนประมาณ  1.60%  ต่อปี